ร่างผู้กอง รอง สว.สส.สภ.ดอยเต่า ที่เสียชีวิตขณะไล่จับคนร้ายแล้วล้มลงหัวใจหยุดเต้น กลับถึงบ้านที่ลำปาง เผยรักในอาชีพตำรวจ ไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ถึง 8 ปี ย้ายกลับมาเพราะต้องการดูแลแม่ ป่วยกินยามาตลอด แพทย์ระบุสาเหตุเส้นเลือดหัวใจอุดตัน
จากกรณี ร.ต.อ.สวง ชุมภู อายุ 38 ปี รอง สว.สส. สภ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ในพื้นที่ท้ายหมู่บ้านแปลง 1 หมู่ 2 ต.มืดกา อ.ดอยเต่า ไล่จับคนร้าย เกิดหัวใจวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมา ช่วงค่ำวันที่ 21 พ.ค.63 ที่วัดห้วยเกี๋ยง หมู่ 9 ต.นาโป่ง อ.เถิน จ.ลำปาง ครอบครัวได้นำร่างของ ร.ต.อ.สวง ชุมภู มาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดแห่งนี้ บรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีชาวบ้านและญาติๆ มาช่วยกันจัดเตรียมงาน และมี พ.ต.อ.เอกพงษ์ ไชยวงศ์สาย ผกก. สภ.ดอยเต่า พร้อมเพื่อนข้าราชการตำรวจ มาร่วมงานนำพวงหรีดจากผู้บังคับบัญชามาร่วมแสดงความเสียใจ กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ผกก. สภ.ดอยเต่า เปิดเผยว่า ร.ต.อ.สวง รับราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มา 8 ปี ก่อนจะขอย้ายมาประจำที่ สภ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้ประมาณ 4 เดือน เพื่อจะได้ดูแลพ่อแม่ที่ป่วยอยู่ที่จังหวัดลำปาง วันเกิดเหตุ ร.ต.อ.สวง ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และไปพบกับผู้ต้องหาที่สะพายอาวุธปืน จึงไล่ตามจับ ระหว่างที่วิ่งไล่จับใกล้จะได้ตัวคนร้าย ร.ต.อ.สวง เกิดล้มลงและมีอาการชักเกร็ง เพื่อนร่วมงานจึงเข้าช่วยเหลือและเรียกรถพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิต ซึ่งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และจะเสนอความดีความชอบตามระเบียบของราชการ เนื่องจากถือว่าเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่
ด้าน นางศิริกาญจน์ ชัยต๊ะ อายุ 34 ปี ภรรยา เล่าว่า สามีมีโรคประจำตัว แต่ได้รักษาและกินยาจนสามารถคุมอาการได้ โดยรวมถือว่าแข็งแรง หลังได้รับข่าวร้ายรู้สึกช็อก เพราะไม่คิดว่าสามีจะจากไปเร็วอย่างนี้ สามีเป็นคนรักครอบครัว ดูแลพ่อแม่มาโดยตลอด ส่วนหนึ่งก็ภูมิใจที่สามีทำงานอย่างเข้มแข็ง แม้ว่าตนเองจะป่วยจนเสียชีวิตในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ และอยากให้หน่วยงานต้นสังกัดดูแลเรื่องการศึกษาของลูก เพราะตอนนี้ตนเองก็สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว ฝันว่าวันหนึ่งลูกชายจะมีใจรักในอาชีพตำรวจตามรอยตามพ่อ
ขณะที่ นางยอดเรือน ชุมภู อายุ 64 ปี แม่ของร.ต.อ.สวง เปิดเผยว่า ตนมีโรคประจำตัวคือโรคไต ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ขอย้ายกลับมาใกล้บ้านเพื่อดูแลพ่อแม่ แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียลูกชายไป ตอนนี้ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ภูมิใจที่ลูกทำงานอย่างเข้มแข็ง จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต ภายหลัง พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่เดินทางไปที่ สภ.แม่กา อ.อดอยเต่า เพื่อติดตามรายละเอียด จากการสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทราบว่าระหว่างผู้เสียชีวิตพร้อมกับพวกได้ออกตรวจป้องกันปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่บ้านแปลง 1 หมู่ 2 ต.มืดกา อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พบวัยรุ่นท่าทางมีพิรุธขับขี่รถจักรยานยนต์มาและขับขี่รถหนี จึงไล่ติดตามมาจนถึงท้องที่บ้านแม่ทก หมู่ 5 ตำบลดอยเต่า อ.ดอยเต่า ซึ่งเป็นเขตติดต่อ ชายวัยรุ่นได้ขี่จักรยานยนต์หนีหายไป และในทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตได้สังเกตเห็นชายไทยอีกคน ถืออาวุธปืนแล้วหลบหนีเข้าไปในสวนลำไย ผู้ตายกับพวกจึงได้วิ่งไล่ติดตาม และผู้ตายสามารถควบคุมตัวชายดังกล่าว พร้อมยึดของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ได้ แต่ผู้ตายเกิดอาการเกร็ง หน้ามืดล้มลง และหัวใจหยุดเต้น ทางเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติการจึงให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจ แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงแจ้งโรงพยาบาลดอยเต่า ส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลมาช่วยเหลือ แล้วรับตัวไปรักษาอาการต่อที่โรงพยาบาลดอยเต่า และเสียชีวิตในเวลาต่อมา