ยังคงแยกกันซ้อมอยู่ที่บ้านของแต่ละคน หลังจากรัฐบาลได้ประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทย จะมีทิศทางที่ดีขึ้นก็ตาม
จากการนำแอพลิเคชั่นซูม(ZOOM) มาช่วยในการคุมซ้อมนักกีฬา ทำให้ดูแลนักกีฬาได้อย่างทั่วถึง และสามารถตรวจสอบได้ว่า นักกีฬาแต่ละคน มีความมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมได้มากน้อยเพียงใด
สำหรับการซ้อมในช่วงนี้ ได้แค่เน้นให้นักชกแต่ละคน รักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น ยังซ้อมเทคนิคไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถซ้อมลงนวมได้นั่นเอง
หลังจากนี้ เชื่อว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น และรัฐบาลจะไม่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกอย่างแน่นอน และหากพ้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไหร่ ทางสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ก็จะมีคำสั่งให้นักชกแต่ละคน กลับมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีต่อไป
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นไทยได้กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปล่อยให้นักมวยแยกย้ายกลับไปซ้อมที่บ้าน เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนได้กำชับนักชกแต่ละคนไว้ว่า จะต้องฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้สภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งนักชกแต่ละคนต้องควบคุมน้ำหนัก เพื่อไม่ให้เกินพิกัดในรุ่นที่ตัวเองชก 2 กิโลกรัมอีกด้วย
หากถึงวันที่เรียกเข้าแคมป์ฝึกซ้อม ใครมีน้ำหนักเกินพิกัด 2 กิโลกรัม ก็จะโดนลงโทษสถานหนัก ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้