ผวจ.ตาก สั่งประชุมด่วน หลังพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่ม 5 ราย สั่งล็อกดาวน์เมืองแม่สอด ตั้งจุดตรวจคุมเข้มทุกทางเข้า-ออกจุดล่อแหลมตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ต.ค.2563 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.ตาก ได้มีคำสั่งเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการทุกอำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก โดยมีผู้นำชุมชน ทีมอาสาสมัคร และผู้เกี่ยวข้องต่างเดินทางมาเข้าร่วมประชุมในวาระเร่งด่วน

โดยการประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียดนานหลายชั่วโมง มีการปรับแผนพร้อมวางมาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อสกัดกั้นโควิด-19 ที่กำลังระบาดกลางอ.แม่สอด หลังจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของรถตรวจชีวนิรภัยพระราชทาน โดยผลการตรวจยืนยันพบสองสามีภรรยาชาวมุสลิมเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในย่านชุมชนหมู่บ้านถุงทอง และมัสยิดมะดีนะฮ์ ผลตรวจออกมาเป็นบวก ติดเชื้อโควิด- 19 ซึ่งสองสามีภรรยาทั้งสองเป็นผู้ป่วยสูงอายุแต่ไม่แสดงอาการ

ขณะนี้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด และทีมงานควบคุมโรคติดต่อได้เร่งลงพื้นที่สอบสวนโรคและส่งผู้ใกล้ชิดภายในบ้านผู้ป่วยสองสามีภรรยาอีก 5 คนไปที่จุดกักตัว local Quarantine ของ อ.แม่สอด และทำการตรวจผลพบเชื้อผู้ใกล้ชิดเพิ่มอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด รวมล่าสุดอ.แม่สอดพบเชื้อในหมู่บ้านถุงทองแล้ว 5 ราย

นอกจากนี้ ทีมสอบสวนโรคยังนำผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงอีกหลายคนในชุมชนหมู่บ้านถุงทองเร่งตรวจหาเชื้อโควิด ผลเป็นลบทั้งหมดแต่ทั้งหมดกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องอยู่ใน local Quarantine ต่ออีก 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ นายพงศ์รัตน์ สั่งการให้ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด นำกำลังสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และผู้นำชุมชนจากเทศบาลนครแม่สอด พร้อมทีมงานสาธารณสุขอำเภอแม่สอด นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล็อกดาวน์ 2 ชุมชนกลุ่มเสี่ยงคือ ชุมชนหมู่บ้านถุงทอง และชุมชนมัสยิดมะดีนะฮ์

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังปิดทางเข้าออกชุมชนทั้งสอง 6 จุดรอบหมู่บ้านทุกเส้นทาง โดยห้ามบุคคลเข้าออกก่อนจะได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไวรัสโควิด-19 ระบาดออกไปนอกพื้นที่ ทำให้บรรยากาศภายในชุมชนทั้งสองซึ่งอยู่ใกล้หน่วยงานราชการที่สำคัญของอ.แม่สอดและเป็นย่านชุมชนเมืองแม่สอดบรรยากาศเงียบเหงา ชาวบ้านทุกคนต่างตื่นตัวสวมหน้ากากอนามัยและป้องกันตนเองขั้นสูงสุด และขอให้ชาวบ้านติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น