วันที่18เมษายน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หรือแรมโบ้อีสานกล่าวถึงกรณี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของกิจการกลุ่มไทยซัมมิท มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แจกเงินประชาชนคนละ 2,000 บาท พร้อมถุงยังชีพในย่านสมุทรปราการ
นายสุภรณ์ ระบุว่า ตนมองในเจตนาดีก่อนว่า ในวิกฤติไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ใครช่วยประชาชนต้องชื่นชมในน้ำใจของคนไทย ที่ไม่ทิ้งกัน ที่ผ่านมาเราเห็นภาคเอกชนและประชาชนจำนวนมาก มีจิตอาสาออกมาช่วยกันเสียสละทุ่มเทช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้คลายความเดือดร้อนจากภัยวิกฤติไวรัสร้ายที่กำลังแพร่ระบาด การช่วยกันทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยกย่องควรได้รับเสียงปรบมือในความมีน้ำใจเสียสละช่วยคนไทยด้วยกันยามทุกข์ยากยามมีภัย นี่คือหัวใจคนไทยที่ไม่มีวันทอดทิ้งกันและกัน
กรณีของนางสมพร ถ้ามิได้หวังผลแอบแฝงทางการเมืองเพื่อช่วยใครหรือเพื่อช่วยพรรคการเมืองใดก็ถือว่า เป็นการทำความดี แต่บังเอิญว่านางสมพร เป็นมารดาของ นายธนาธร นักการเมืองดัง เจ้าของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้วและไปตั้งพรรคก้าวไกล และบังเอิญอีกว่าเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่มีสส.ของพรรคก้าวไกลอยู่1คน ขณะที่อำเภอบางพลี เป็นท้องที่เขตเลือกตั้งของสส.กรุงศรีวิไล สุทินเผือก พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกใบเหลือง รอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินว่าจะต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ และก็บังเอิญอีกที่มีผู้สมัคร สส.ของพรรคอนาคตใหม่ อยู่ในพื้นที่นี้ด้วย”
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า หากการกระทำของ นางสมพร เป็นการกระทำเพื่อปูทางหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคก้าวไกลเช่นนี้ การกระทำดังกล่าวอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะว่าเขตบางพลี อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอนาคตซึ่งต้องรอผลศาลฯตัดสิน ถ้านางสมพรมิได้มีเจตนาแอบแฝงหรือหวังผลทางการเมือง ก็ไม่ควรมุ่งเป้าในพื้นที่อำเภอบางพลีนี้จุดเดียวควรจะกระจายความช่วยเหลือคนเดือดร้อนไปให้ทั่วๆในหลายจังหวัด ถึงแม้จะเป็นเขตเลือกของสส.พรรคใดจังหวัดใดก็ตาม ถ้ามีความตั้งใจช่วยด้วยใจจริงก็ควรไปช่วยด้วย ไม่ควรเลือกจุดพื้นที่ที่มีเป้าหมายหวังผลทางการเมืองเพราะวันนี้เราคนไทยด้วยกันไม่มีเวลามาคิดการเมืองแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นของพรรคโน้นพรรคนี้แล้ว เพราะทุกคนคือคนไทยด้วยกันมิใช่หรือ ความเสียสละที่จะต้องช่วยกันทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบไวรัสโควิด-19 คือเป้าหมายที่พวกเราต้องช่วยกันอย่างแท้จริงไม่มีเวลามาเล่นแบ่งพรรคแบ่งพวก แยกขั้วแยกฝ่ายการเมืองใดๆทั้งสิ้นในยามที่ประเทศมีวิกฤตินี้ครับ "หรือคุณสมพรถ้าจะบริจาคสนับสนุนก็สามารถติดต่อผ่านหน่วยงานรัฐหรือส่วนราชการหรือนำอุปกรณ์ต่างๆไปมอบให้โรงพยาบาลที่หมอและพยาบาลที่ขาดแคลนจะไม่ดีกว่าหรือไม่ใช่มาให้ลูกน้องถ่ายคลิปแจกเงินโชว์ในโซเชียลเช่นนี้ดูแล้วไม่สบายในสายตาคนชมเลย ตนจึงขอแนะนำว่าควรจะไปช่วยในพื้นที่อื่นๆด้วยเพื่อมิให้ใครมองว่ามีเจตนาช่วยพรรคก้าวไกลที่มีนายธนาธรและคุณสมพรเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังใกล้ชิดกับพรรคดังกล่าวนี้
“ผมไม่อยากให้ใครก็ตาม เอาความเป็นความตายของประชาชน ฉกฉวยวิกฤติเป็นโอกาสของตนเอง เพื่อหวังผลทางการเมือง ควรทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์มีจิตใจที่เป็นกุศลเพื่อช่วยประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระทำความดีและเป็นตัวอย่างให้คนในสังคมไทยได้ดูเป็นแบบอย่างการเสียสละตอบแทนกลับคืนสู่สังคมโดยไม่ได้หวังผลทางการเมืองให้กับครอบครัวและเครือข่ายพรรคการเมืองของลูกชายตนเอง ซึ่งในยามนี้ประเทศชาติต้องการความร่วมมือจากทุกๆฝ่าย ต้องการความสมัครสมานสามัคคีความเสียสละจากคนไทยทุกคนพวกเราพวกท่านควรหยุดคิดและหยุดพักกิเลสทางการเมืองควรพับเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อนเพื่อทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นผ่านวิกฤติไปด้วยกันจะได้ไหมครับ"นายสุภรณ์กล่าว