ทั้งเรื่องเวลาการซ้อมและสถานที่เพื่อลดความดังลงแล้ว แต่ไม่ได้ทำหนังสือไปชี้แจงเพราะไม่ทราบกฎระเบียบ กลายเป็นว่าขัดขืน หรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ทำให้มีคำสั่งฟ้องจากอัยการ ซึ่งทาง เสถียร ก็ได้เดินทางไปพบกับอัยการเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทำหนังสือขอเลื่อนนัดการส่งฟ้องศาลเป็นวันที่ 19 มิถุนายน โดยเรื่องนี้เสถียรได้กล่าวว่า "ผมได้ปรับปรุงภายในค่ายเพื่อลดความดังแล้วพร้อมปรับตารางการซ้อมมวย เช้า 8.00-10.00 น. เย็น 15.00-18.00 น. ซึ่งไม่น่าจะใช่เวลาพักผ่อนจึงอยากวิงวอนให้เพื่อนบ้านเห็นใจผมบ้าง จะให้กันเป็นตู้กระจก ก็คงไม่ไหวค่าใช้จ่ายสูงไม่มีทุนขนาดนั้ ผมเพิ่งจะเริ่มตั้งตัว และค่ายมวยการซ้อมไม่เหมือนฟิตเนส ที่ซ้อมกันทั้งวัน แต่ค่ายมวยซ้อมเป็นเวลา ผมไม่อยาก สร้างปัญหาหรือมีปัญหากับเพื่อนบ้าน อยากได้มิตรภาพไมตรีที่ดีต่อกัน เพราะเพื่อนบ้าน ก็คือคนบ้านใกล้เรือนเคียงมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน สอดส่องดูแลกัน ค่ายมวยผมอยู่หลังหมู่บ้านนี้ หากมีขโมยขโจรนักมวยก็ยังช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาได้ ยังไงก็อยากวิงวอนไปทางผู้นำหมู่บ้าน และลูกบ้านทุกท่าน ให้เห็นใจผมหน่อย เห็นนักมวยเหมือนลูกหลานที่สืบตำนานมวยไทย ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ช่วยกอบกู้เอกราชชาติไทย และมวยไทยก็เป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประไทย"