“เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” นักมวยพ่อค้าขายผักแห่งอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ช่วงเศรษฐกิจซบเซาเพราะภาวะวิกฤติโควิด-19 หลายธุรกิจต้องปิดประตูชั่วคราว โดยเฉพาะการแข่งขันชกมวยซึ่งเป็นอาชีพหลักของเขา ทำให้ตอนนี้ต้องหันมาช่วยภรรยาค้าขายผักอยู่ในตลาดเต็มตัว
เมืองไทย ซึ่งว่างงานชกมวยในช่วงนี้ หันมาเป็นผู้ช่วยภรรยาขายผักในตลาดเจริญดี ที่อำเภอหนองกี่ บ้านเกิด เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของครอบครัวที่ภรรยา “น้องนัท” ณัฐมล เจริญดี สืบทอดมาจากพ่อแม่ และทำมาตลอดเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของสามี
จากที่แต่ก่อน เมืองไทย เคยนั่งเฝ้าแผงผักชั่วครั้งชั่วคราว พอว่างงานมวยแบบนี้จึงมีเวลามาขายเองทั้งวัน และทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง
“เมื่อก่อนตอนที่ผมมาช่วยแฟน ผมก็ไม่ค่อยตั้งใจ เพราะคิดว่ายังไงแฟนก็ทำเป็นหลัก ผมรับเงิน ทอนเงิน ผิดๆ ถูกๆ บางทีก็คิดเงินช้าบ้าง หรืออย่างลูกค้าจะซื้อผักอะไร แฟนผมรู้หมด แต่ผมไม่ค่อยรู้เพราะไม่สนใจ คิดว่าแค่มาช่วย เดี๋ยวก็กลับไปชกมวย”
“ช่วงนี้บางทีแฟนให้ผมอยู่ขายคนเดียวครึ่งค่อนวัน มันก็ทำให้ผมรอบคอบในการทอนเงินมากขึ้น และรู้จักผักแต่ละชนิดมากขึ้นด้วยครับ”
ในภาวะที่ผู้คนรณรงค์ให้ทำงานและเก็บตัวอยู่บ้าน แต่อาชีพขายอาหาร ขายผัก ขายของสด ฯลฯ มันยังต้องมีอยู่ เพราะกองทัพยังคงต้องเดินด้วยท้อง คนยังต้องกินอาหารเพราะมันคือปัจจัย 4 ธุรกิจขายผักของ เมืองไทย และภรรยา จึงมีรายได้ไม่ขาดมือ หักกลบลบทุนแล้วมีเงินฝากธนาคารทุกวัน
“รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายก็ประมาณหลักพันบาทครับ บางวันก็พัน สองพัน ช่วงหน้าเทศกาลขายดีมากๆ ถึงหลักหมื่นก็มี อย่างน้อยมันก็เป็นอาชีพรองรับครอบครัว แม้ผมจะไม่ได้ชกมวย”
แม้จะเกิดภาวะวิกฤติแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนที่ไม่มีทรัพย์มรดก ไม่มีเงินเก็บ ยังคงต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงปากท้อง ส่วน เมืองไทย เอง แม้เขาจะพอมีเงินเก็บอยู่หลาย แต่อาชีพนักมวยอย่างเขาเอาแน่นอนไม่ได้ ถึงวัยหนึ่งร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็ต้องแขวนนวม วันนี้ที่เขายังมีอาชีพรองรับก็ต้องออกไปทำงาน และหาวิธีป้องกันตัวเองอย่างดีที่สุด
“ที่ตลาดเพิ่งมีการทำความสะอาดล้างตลาดฆ่าเชื้อโรค พ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงห่างๆ กัน เวลาขายของให้ลูกค้าก็ใส่หน้ากากป้องกัน และหมั่นล้างมือให้สะอาด กลับถึงบ้านอาบน้ำสระผม รักษาความสะอาด ถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ เราก็จะลดความเสี่ยงลงไปครับ”