จากกรณี พลทหาร เจษฏากร หรือ ก็อต อายุ 21 ปี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิตในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยทางญาติๆ ต่างคาใจในสาเหตุของการเสียชีวิต ผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ยังระบุอีกว่าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว พบสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร สร้างความเคลือบแคลงใจในสาเหตุการตายให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงรายละเอียดเหตุการณ์ วันเกิดเหตุ (27 เม.ย.) มีดังนี้
ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 224 ม.2 บ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อพูดคุยกับ นางพยอม อายุ 43 ปี มารดาของน้องก็อต เล่าให้ฟังว่าตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาว น้องก็อตเป็นลูกชายคนเล็กเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อวันที่ 2 พ.ค.63 กำหนดเป็นวันเผาศพของลูกชาย แต่ตนได้ตัดสินใจไม่เผาศพลูก และติดต่อไปยัง รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เพื่อขอผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกให้ชัดเจนอีกครั้ง และจะร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานต้นสังกัดของลูกชาย ให้ความจริงกระจ่างว่าลูกตนเป็นอะไรตายกันแน่
เพราะตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ที่ตนเดินทางไปรับศพลูกที่ จ.ชลบุรี กลับมานั้น ไม่เคยมีใครมาแม้แต่ร่วมงานศพลูก จนถึงวันจะเผาก็ไม่มีตัวแทนจากทหารมาสักคน หรือแม้แต่คนที่มาอธิบายให้ฟังว่าลูกตนเป็นอะไรตายก็ไม่มี มีเพียงแต่ทางตนที่พยายามติดต่อไปก็บอกว่าไม่ว่าง ติดงาน ติดเคอร์ฟิว ตนกับลูกสะใภ้ติดต่อไปหาเพื่อนของลูกที่เป็นทหารก็ตอบไม่ตรงกันสักคน ว่าสรุปลูกตนเป็นอะไรตายก่อนลูกตายมันเกิดอะไรขึ้น
นางพยอม พูดต่อทั้งน้ำตาว่า ลูกทั้งคนเวลาเขาเกณฑ์ทหาร ก็จัดรถอย่างดี 2 ชั้น ติดแอร์มารับตัวเขาไปอย่างสมเกียรติ ปลูกฝังให้เขาภูมิใจที่ได้ไปรับใช้ชาติอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอเวลาตาย ทำให้ได้แค่เงินช่วยเหลือ 3 หมื่นกว่าบาท แถมให้ญาติเอาศพน้องกลับมาเอง แม้แต่โลงที่ใส่ร่างน้องก็ยังเป็นโลงบริจาค ตนเสียใจมาก ลูกตนตายในค่ายทหาร ในชุดทหาร ในระหว่างเป็นทหาร แต่ทำไมไม่มีใครตอบได้ว่าลูกตนเป็นอะไรตาย ตนยืนยันว่าตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดหากไม่มีใครตอบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ความจริงไม่ปรากฏว่าสารพิษที่อยู่ในกระเพาะอาหารลูกมันเข้าไปได้ยังไง ในเมื่ออาหารที่กินก็กินกันหลายคนแต่กลับไม่มีใครเป็นอะไรเลยสักคน มีลูกตัวเองคนเดียวที่ตาย หากความจริงไม่ปรากฏตนจะไม่เผาศพลูก จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกตนด้วย
ด้าน นางสาวชฏาพร อายุ 22 ปี ภรรยาของน้องก็อต เล่าให้ฟังว่า ก็อตเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ยิ่งกับตนยิ่งไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกันเลย ปกติจะคุยโทรศัพท์กันวันละหลายรอบ คืนวันเกิดเหตุ เวลา 00.26 น. ตนหลับแล้วสามีก็แชทมาทิ้งไว้ว่า "ฝันดีค่ะ จุฟๆๆ" จนเช้ามามีจ่าเวรติดต่อมาว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ให้ติดต่อญาติให้หน่อย ตนก็พยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็รู้แค่เพียงว่ากินอ่อมไก่กัน แล้วแยกย้ายเข้านอน จนเพื่อนข้างเตียงนอนมาปลุก ก็ปรากฏว่าหยุดหายใจไปแล้ว เอาตัวส่งโรงพยาบาลก็ช้าเกินไปหมอบอกว่าสามีสิ้นใจไปแล้ว ตนรู้แค่นั้น นอกจากนั้นไม่รู้อะไรเลย ไปรับศพสามีกลับมาบ้านที่ จ.พิษณุโลก ตั้งสวด 3 คืน พยายามติดต่อไปที่เพื่อนสามีในค่ายทหารฯ ว่าจะมีใครมาร่วมงานไหม ก็ไม่มีใครมาสักคน จนแม่บอกไม่ไหวแล้ว ปล่อยไปอย่างนี้ไม่ได้ ต้องร้องขอความเป็นธรรม แฟนตนตายในหน้าที่ แต่กลับถูกทิ้ง ไม่มีใครเหลียวแล แม้แต่งานศพก็ไม่มาร่วม ตนต้องการหาความจริงว่าแฟนตนเป็นอะไรตายกันแน่
นางสาวชฏาพร กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ตนพร้อมแม่สามีจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ จ.ชลบุรี เพื่อขอทราบผลการตรวจสารพิษในกระเพาะอาหาร ว่าเป็นสารอะไรกันแน่ เข้าไปอยู่ในท้องได้ยังไง และจะไป สภ.พลูตาหลวง และ สภ.สัตหีบ ให้ทำการสืบสวนสอบสวนความจริงให้กระจ่างว่าสามีของตนเป็นอะไรตายกันแน่ หากความจริงไม่ปรากฏก็ยืนยันจะไม่ขอเผาศพสามีจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมให้กับครอบครัว