(6 ก.ค.63) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chonlatan Tongsang โพสต์เรื่องราวหลังเกิดเหตุระทึกที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ระบุข้อความว่า
"ดีที่เอาชีวิตขึ้นฝั่งทัน *เหตุการณ์คือน้ำพัดมาแรงมาก เพราะเขาปล่อยน้ำ แล้วเราไม่รู้ ไม่มีใครรู้ แพที่พังเป็นแพเราเอง แพเราเป็นแพที่3 จากต้นน้ำ เชือกที่ผูกกับต้นไม้มันขาด พี่ๆช่วยกันดึงยังไงก็ไม่ไหว แล้วแพเราก็ชนกับแพข้างๆ อย่างจัง เราก็รีบปืนออกจากแพเพราะน้ำเข้าแพ อีกข้างกำลังจะจม ของเราพัดไปหมดเลย น้ำแรงมากๆ ปลอดภัยดี "
โดยสาเหตุเกิดจากทางเขื่อนเปิดประตูน้ำโดยไม่แจ้งให้ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า ทำให้กระแสน้ำไหลหลากเข้าใส่แพล่องแก่ง จนเชือกผูกแพขาดแล้วไหลไปปะทะกับแพที่ให้บริการรายอื่น เป็นเหตุให้แพเอียงข้าวของหล่นลงไปในน้ำขณะที่นักท่องเที่ยวพากันหนีตายขึ้นฝั่งอย่างโกลาหล
ผู้ประกอบการเผยว่า ปกติเขื่อนจะเปิดประตูระบายน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงเช้า และมีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบผ่านทางกลุ่มไลน์ เพื่อให้ระมัดระวังกระแสนน้ำที่จะไหลแรงขึ้น แต่วันเกิดเหตุเขื่อนเปิดประตูน้ำในช่วงบ่าย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการแพทราบก่อนล่วงหน้า
ด้านนายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบปิดประตูระบายน้ำทันที และต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการเข้ามาในพื้นที่แนวกั้นที่ห้ามไว้หรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุกรมเจ้าท่าและอำเภอสิรินธรได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ รวมทั้งนายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร ได้นัดผู้ประกอบการให้มาร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก