ศึก วัน แชมเปียนชิพ ONE : No Surrender II วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 จัดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในระบบปิด โดยคู่เอกเป็นการพบกันระหว่าง "สิงห์เหนือ" เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ กับ "เสือใต้" รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่พบกันเป็นครั้งที่ 4 แต่เป็นครั้งแรกในแบบกติกามวยไทย 3 ยก ซึ่งเป็นคู่แรกของทัวร์นาเมนต์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต โดยผู้ชนะจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อไปเจอกับผู้ชนะคู่เอกของศึกถัดไป
ภาพรวมคู่นี้ เสมาเพชร ได้เปรียบเรื่องรูปร่างสูงยาวและความหนุ่มสด มาพร้อมกับความไวและแข็งแกร่ง มีการออกอาวุธเป็นชุดทั้งแข้งและหมัดได้จะแจ้งชัดเจนกว่าในช่วงสองยกแรก ขณะที่ รถเหล็ก เดินบุกตลอดแต่อ่อนอาวุธกว่า เพราะเน้นป้องกัน ตั้งการ์ด ระวังหมัดของ เสมาเพชร กระทั่งยกสุดท้าย รถเหล็ก เดินไล่เจาะยางและจ้วงหมัด แต่ก็ไล่ไม่ทัน นักมวยรุ่นน้องค่ายใหญ่จากพัทยาจึงคว้าชัยไปแบบเสียงข้างมาก (ชนะ 2 เสมอ 1) ได้ก้าวเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์
ด้าน "ลีโอ ปินโต" พบกับ "เมห์ดี ซาทูต" ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต โดยเมห์ดี วัย 36 ปี แม้จะอายุมากกว่า ลีโอ ถึง 10 ปี แต่ความแข็งแกร่งและว่องไวนั้นกลับดูเหนือกว่า อีกทั้งการออกหมัดชุดและการสาดแข้งเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีคมเฉียบคมและจะแจ้ง ส่วน ลีโอ ที่ดูช้ากว่า ยังติดการชกรูปแบบมวยไทยมากเกินไป โดยจับขาของอีกฝ่าย จนกรรมการออกโรงเตือนหลายครั้ง หลังครบ 3 ยกนักชกแอลจีเรียรุ่นพี่จึงคว้าชัยไปอย่างเป็นเอกฉันท์
ส่วนการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แคตช์เวต 59.5 กก. "พงษ์ศิริ มิตรสาธิต" วัย 24 ปี กับคู่แข่งชาวอาทิตย์อุทัย "อากิฮิโร ฟูจิซาวา" วัย 40 ปี ช่วงต้นคู่นี้ยังทำอะไรกันไม่ถนัด คลุกวงในได้สักพัก ฝ่ายนักสู้จากแดนซามูไรก็พาลงไปเล่นเกมภาคพื้นที่ถนัด แต่ พงษ์ศิริ ป้องกันตัวได้ดี แม้จะถูกขึ้นคร่อมและเกือบโดนล็อกคอ แต่แล้วในช่วง 10 วินาทีสุดท้าย แชมป์มวยไทยภาคเหนือหนุ่มกลับการ์ดตก เป็นโอกาสให้ อากิฮิโร จ้วงหมัดซัดเข้าหน้าอย่างจังจนแพ้น็อกไปอย่างน่าเสียดายในช่วง 5 วินาทีสุดท้ายก่อนหมดยกแรก
ผลมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต การแข่งขันมวยไทย 3 ยก ระหว่าง "เซราะกราว เพชรยินดีอะคาเดมี" พบกับ "พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" คู่นี้ฝ่ายหนึ่งลดน้ำหนักลงมาสู้อีกฝ่ายเพิ่มน้ำหนักขึ้นไป เพื่อให้อยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวต จึงกลายเป็นศึกที่สองของ พงษ์ศิริ ที่ต้องเจอกับคู่แข่งใหญ่จากค่ายเพชรยินดีฯ
เซราะกราว นั้นได้เปรียบเรื่องรูปร่าง ความยาว และไวกว่า จึงใช้ลูกถีบและเตะเพื่อสกัด พงษ์ศิริ ไม่ให้เข้าถึงตัว แม้ พงษ์ศิริ จะใช้ความพยายามหาจังหวะเข้าทำ แต่ก็โดนแข้งโต้กลับมา ตามมาด้วยทั้งศอกและหมัด ดีที่ได้ความอึดและลูกแข็งแรง เดินเข้าทำต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บชัยในไฟต์นี้ได้ ปล่อยให้ เซราะกราว ชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์
ด้าน "ยอดไก่แก้ว แฟร์เท็กซ์" และ "จอห์น ชิงค์" จากไทเกอร์มวยไทย พบกันในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นฟลายเวต ด้วยความที่มีพื้นฐานมวยไทยทั้งคู่ จึงยืนสู้กันได้อย่างไม่ยำเกรง ก่อนที่ฝ่าย จอห์น ชิงค์ จะเริ่มเปิดเกมภาคพื้นก่อน แต่ ยอดไก่แก้ว มีการป้องกันตัวที่รัดกุมจึงไม่เพลี่ยงพล้ำ แถมยังมีหมัดที่ฮุกอันตราย ซึ่งสร้างชัยชนะให้เขาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ปล่อยฮุกขวาเข้าเต็มกรามอีกฝ่ายจนร่วงลงพื้นให้กรรมการยุติการแข่งขันในนาทีที่ 1.11 ของยกที่สอง
ส่วนมวยไทย รุ่นฟลายเวตเวต "ฮวง ดิง" นักชกชาวจีน พบกับ "ฟาห์ดี คาเล็ด" จากตูนีเซีย เปิดยกแรก ฟาห์ดี เป็นฝ่ายแจกลูกถีบ และชวนเปิดศึกแลกแข้ง ไม่รีรอให้เสียเวลา แถมมีหมัดและศอกที่รวดเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ด้าน ฮวง ดิง เป็นฝ่ายตั้งรับ โดยใช้หมัดและแข้งจ้วงแทงตอบโต้อีกฝ่าย แต่ก็ต้านความแข็งแกร่งของ ฟาห์ดี ไม่ได้ ทำให้เมื่อครบ 3 ยก นักชกจากตูนีเซียเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์