อภิเดช ศิษย์หิรัญ
ประวัติ
อภิเดช ศิษย์หิรัญ (ชื่อเล่น: ตังค์: 1 กันยายน พ.ศ. 2484 — 4 เมษายน พ.ศ. 2556) เป็นนักมวยไทยคนเดียวที่มีลูกเตะเป็นอาวุธสำคัญสามารถชงเท้าเข้าก้านคอคู่ต่อสู้แล้วไล่ลงมาถึงขาพับ 3 จังหวะด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะแข้งขวา จนได้รับฉายา "จอมเตะแห่งบางนกแขวก"
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อจริง ณรงค์ ทรงมณี
ฉายา จอมเตะแห่งบางนกแขวก
วันเกิด 1 กันยายน พ.ศ.2484
สถานที่เกิด ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
วันที่เสียชีวิต 4 เมษายน พ.ศ.2556(72ปี)
รุ่น เวลเตอร์เวท
ผู้จัดการ องุ่น เอี่ยมภิญโญ
ผู้ฝึกสอน สุพร วงศาโรจน์(ครูมวยคนแรก)
เมื่อ ศึกษาระดับประถมศึกษาขณะศึกษาระดับมัธยมศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเมธีชุณหะวัณวิทยาลัย ในชั้น ม.2 ได้พบกับครูพละคนแรกคือ ครูสุพร วงศาโรจน์ ซึ่งมองเห็นหน่วยก้านเข้าทีดีจึงเริ่มสอนวิชากระบี่กระบอง พลอง และไม้สั้นให้ ต่อมาก็สอนแม่ไม้มวยไทย เมื่อเห็นว่าเป็นผู้มีความสนใจ
อภิเดชซ้อมมวยอยู่เสมอ 3-4 เดือนต่อมา ก็ไปเปรียบมวยครั้งแรกที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และสามารถคว้าชัยชนะมาได้ จนวันหนึ่งที่จังหวัดราชบุรี นายเกษม เอี่ยมภิญโญผู้จัดรายการมวยกรุงเทพฯมาพบเข้าชอบใจในลีลาการต่อสู้จึงชวนไปชกมวยที่กรุงเทพฯโดยใช้ชื่อว่า "อภิเดช ลูกพรชัย"
เมื่อขึ้นชกในกรุงเทพฯ ได้รับชัยชนะตลอดมาอภิเดชแพ้ครั้งแรกเมื่อชกกับ "โกมารเดช" โดยแพ้น็อค ในยกที่สองเพราะต่างคนต่างสับศอกเข้าใส่กันท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มทั้งสนาม ผลปรากฏว่า โกมารเดชกระเด็นตัวลอยไปติดเชือก ส่วนอภิเดชโดนเข้าแสกคาง กระเด็นหัวน๊อคพื้น และแพ้น๊อคอีกครั้งให้สินชัย แต่สามารถล้มสินชัยได้อย่างสอนมวยในเวลาต่อมา
อภิเดชเปลี่ยนมาใช้ชื่อ "อภิเดช ศิษย์หิรัญ" เมื่อ ครูสุพร วงศาโรจน์ พาไปฝากเป็นศิษย์ที่ค่ายมวย "ศิษย์หิรัญ" ของครูเกษม และ คุณองุ่น เอี่ยมภิญโญ ระยะนั้นชื่อ "อภิเดช" เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ พ.ศ. 2502 - 2506 เป็นช่วงที่อภิเดชโด่งดังในเชิงมวยไทย ชกชนะคู่ชกชั้นดีหลายคน เช่น บุกเดี่ยว ยนตรกิจ แดนชัย ยนตรกิจ เขียวหวาน ยนตรกิจ ราวี เดชาชัย เดชฤทธิ์ อิทธิอนุชิต ได้ครองแชมป์มวยไทยรุ่นเวลเตอร์เวททั้งเวทีลุมพินีและเวทีราชดำเนิน โดยเฉพาะกับเดชฤทธิ์นั้น ทั้งคู่เปรียบเหมือนเป็นคู่รักคู่แค้นกัน โดยชกกันมากถึง 12 ครั้ง ในห้วงเวลานาน 7 ปี (พ.ศ. 2506 - 2513) โดยอภิเดชเป็นฝ่ายชนะไปถึง 6 ครั้ง และแพ้ 4 ครั้ง และอีกหนึ่งครั้งเป็นมวยสากล และก็เป็นอภิเดชที่เป็นฝ่ายชนะน็อคไปในยกที่ 7[3] ด้านความรุนแรงในการเตะ อภิเดชซึ่งเคยพบกับสมพงษ์ เจริญเมือง ได้เป็นฝ่ายเตะสมพงษ์ที่ตั้งศอกรับจนแขนร่วงมาแล้วครั้งหนึ่ง
หลังจากนั้น อภิเดช ศิษย์หิรัญได้หันไปชกมวยสากลในรุ่นเวลเตอร์เวท ชิงแชมป์มวยสากลทั้งเวทีราชดำเนินและลุมพินีเป็นผลสำเร็จทั้ง 2 เวที และได้ขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ เอลิลิโอ อรันดาได้รับชัยชนะในยกแรกเป็นแชมป์สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) อภิเดชขึ้นชกกับนักมวยสากลระดับรองแชมป์โลก เพื่อลุ้นเข้าอันดับโลกแต่ไม่สำเร็จ พ.ศ. 2508 แพ้คะแนน ฟอร์ตูนาโต้ มันกา (อิตาลี) จากนั้นขึ้นชกป้องแชมป์ OPBF ชนะคะแนน คูโบ อูร่า จึงได้เข้าอันดับโลกเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 10 ของสมาคมมวยโลก (WBA) แต่หลุดจากอันดับเมื่อแพ้คะแนน วาเลอริโอ นูเนซ (อาร์เจนตินา) เมื่อ พ.ศ. 2509
อภิเดช ศิษย์หิรัญ ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จากโรคมะเร็งปอด ที่ล้มป่วยมานาน เนื่องจากการสูบบุหรี่ซึ่งสูบมาตั้งแต่วัยรุ่นจนกระทั่งอายุ 37 ปี จึงเลิก เมื่อแขวนนวมแล้วในบั้นปลายชีวิตก็มีอาการป่วยกระเสาะกระแสะ ต้องเข้าโรงพยาบาลเช็คร่างกายอยู่เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 จนกระทั่งถึงแก่กรรม สิริอายุได้ 72 ปี