ความคืบหน้ากรณีที่ "ธีร์ ภูมิธนะวัชร์" อดีตนักแสดงหนุ่ม วัย 41 ปั ได้ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือในโลกโซเชียล หลังป่วยเป็นวัณโรคทับต่อมน้ำเหลือง ทำให้ผู้คนร่วมโอนเงินบริจาคช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก กระทั่งล่าสุดได้ย้ายออกจากห้องพักที่บ้านเอื้ออาทรที่อาศัยอยู่เดิม และเข้าอยู่บ้านหลังใหม่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ก่อนจะมีคนตั้งข้อสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในการใช้ทรัพย์สิน โดยเฉพาะมีรถยนต์จอดอยู่ในบ้านด้วย

ขณะที่ดาราสาว "เอมมี่ แม็กซิม" ก็ได้ออกมาตั้งขอสังเกตถึงความผิดปกติในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน กรทั่งสำนักข่าวชื่อดังแห่หนึ่งได้ไปเกาะติดทำข่าว ก่อนจะพบมียอดเงินบริจาคหลั่งไหลเข้าบัญชีมากถึง 8 ล้านบาท แต่กลับชี้แจงกับสังคมว่าได้ยอดเงินบริจาคเพียงแค่หลักหมื่น กลายเป็นประเด็นสงสัยว่า อดีตดาราได้แอบซุกซ่อนเงินบริจาคหรือไม่ รวมทั้งนำเงินก้อนนี้ไปซื้อรถซื้อบ้าน ทำให้ปัจจุบันเงินหลงเหลือติดบัญชีเพียงไม่กี่แสนบาทที่ยังเป็นข้อครหาในสังคมอยู่

ล่าสุดในวันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านในของอดีตดาราหนุ่มใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบเป็นบ้านชั่้นเดียว มีรถยนต์สีบรอนซ์เงินจอดอยู่หนาบ้าน ขณะที่ ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ กำลังเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อจะแถลงข้อเท็จจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อ ธีร์ ภูมิธนะวัชน์ เห็นผู้สื่อข่าวก็ออกปากไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ พร้อมกับเดินเข้าไปนั่งในบ้านแทน โยเพื่อนสนิทที่ระบุว่าช่วยเหลือดูแลอดีตดาราหนุ่มมานาน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่ถูกนำเสนอออกไปตอนนี้นั้นไม่เป็นความจริง มีการนำไปตีความผิดๆ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ ไม่ได้ต่อสู้กับอากาป่วยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องตกอยู่ในภาวะเครียดหนัก เพราะถูกนำเสนอข่าวไม่เป็นความจริง ทำให้สังคมเริ่มกล่าวโจมตีฝ่ายเขา ส่วนประเด็นจำนวนเงินบริจาคและค่าใช้จ่าย ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะจะนำไปชี้แจงในการแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.) เพื่อให้ทุกคนได้ทราบความจริง

ขระที่ คุณป้าอีกคนหนึ่ง ที่ระบุว่าเป็นแม่ของเจ้าของบ้านและรถยนต์คันที่สังคมสงสัย ได้ออกโรงยืนยันว่า ทั้งบ้านและรถยนต์เป็นของลูกชายของป้า ทุกวันนี้ก็ยังต้องผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่เลย โดยบ้านหลังนี้ได้ก็ให้อดีตนักแสดงหนุ่มมาเช่าอยู่ในราคาถูกเพราะความสงสารและเห็นใจ

ส่วนรถยนต์นั้นก็เป็นของลูกชายที่ขับมาจอดไว้ที่บ้าน เมื่อมาแวะเวียนดูแลอดีตนักแสดงเป็นครั้งคราว ขณะที่เรื่องราวที่ถูกเสนอตามสื่อนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงขอให้สื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรับผิดชอบกับข้อมูลที่นำเสนอออกไป