หนุ่มลวงข่มขืนเด็กหญิง 14 ปี เรื่องวุ่นหนักเมื่อชายอีกคนที่มาติดพันเด็กสาวเกิดหึงหวง นัดเคลียร์จนตีกันยับ

(4 ต.ค.63) พ.ต.ต.ปรีชา ปันกองงาม สว.(สอบสวน) สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก นางอุไร อายุ 59 ปี อาชีพเก็บขยะขาย ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ว่าหลานสาวคือ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้ถูกชายข่มขืนกระทำชำเรา และยังได้ข่มขู่ทำให้กลัวว่าจะถูกทำร้ายและได้รับอันตรายจึงได้พา ด.ญ.น้ำ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความร้องทุกข์และขอรับการคุ้มครอง

โดยนางอุไรและหลานสาวระบุว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนางอุไรซึ่งมีสุขภาพไม่แข็งแรง ได้หาเลี้ยงดูหลานจำนวน 4 คน ด้วยการเก็บขยะขายทำให้มีฐานะยากจนขณะที่หลานๆ ต่างกำพร้าพ่อแม่กันหมดโดย ด.ญ.น้ำ เป็นหลานคนที่ 2 กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 09.15 น.ของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ด.ญ.น้ำ ได้รู้จักกับ นายเอก (นามสมมติ) อายุประมาณ 27 ปี อ้างว่าทำงานขายสินค้าออนไลน์ จึงได้ติดต่อกันทางแชทไลน์หารือกันและทางชายคนดังกล่าวได้ชักชวนให้เด็กหญิงไปเรียนการค้าขายออนไลน์ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย

ซึ่งจากการพูดคุยกันและชายคนดังกล่าวได้แสดงตัวด้วยบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งบอกว่าเคยทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ทำให้ ด.ญ.น้ำ ไว้วางใจจึงได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ชายคนดังกล่าวไปยังห้องพักดังกล่าว แต่ปรากฎว่าเมื่อเข้าไปในห้องกลับไม่ได้สอนโดยได้ใช้มือลูบคลำขาและหน้าท้อง ก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง เสร็จแล้วก็พา ด.ญ.น้ำ กลับบ้าน แต่ปรากฎว่าเมื่อกลับบ้านได้มี นายสอง (นามสมมติ) ชายหนุ่มอีกคนซึ่งติดพันอยู่กับ ด.ญ.น้ำ มาก่อนหน้านี้มีอาการหึงหวงและได้ให้ ด.ญ.น้ำ โทรศัพท์ไปหาชายที่ข่มขืน นัดให้ไปพบที่ร้านแห่งหนึ่งติดลำน้ำสาย ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย แต่เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายไปพบก็มีการทะเลาะวิวาทจนนายสองได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเลิกรากันไป โดยทางหน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล

จากนั้น ด.ญ.น้ำ ก็ได้อาศัยอยู่กับย่าและหลานคนอื่นๆ ตามปกติแต่ปรากฎว่า นายสอง (นามสมมติ) ที่ถูกทำร้ายกลับยกพวกพากันเข้าไปในบ้านแล้วข่มขู่ให้เรียกกลุ่มของ นายเอก (นามสมมติ) ที่เคยทำร้ายตนมาหาโดยขู่ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร ไม่เช่นนั้นจะเผาบ้านให้วอด แม้ว่า ด.ญ.น้ำ จะไม่ได้โทรศัพท์เรียกใครและเลิกรากันไป แต่ทำให้นางอุไรและหลานสาวรวมทั้ง ด.ญ.น้ำ เกรงกลัว เพราะอาศัยอยู่กันตามประสาย่าหลานรวม 5 คนดังกล่าว ดังนั้นจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำพร้อมกับพาด.ญ.น้ำไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุเบื้องเพื่อประกอบสำนวนการแจ้งความ โดยกรณีของ ด.ญ.น้ำ ถือว่าเป็นเด็กและเยาวชนจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสอบปากคำตามเพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป