วันที่ 19 ธ.ค. 62 พล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ประชุมชุดพนักงานสอบสวนในการที่จะนำผู้ต้องหาไปประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนกว่า 500 คน ทยอยเข้ามาชูป้าย พร้อมตะโกนให้ประหารชีวิตนายสมคิด จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนกว

จากนั้น ผบช.ภ.4 ได้ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้นว่า ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชน แต่ทางตำรวจต้องทำตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพนักงานสอบสวนได้มีการจำลองเหตุการณ์สังหารนางรัศมี ภายในห้องสอบสวน บันทึกเป็นภาพทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน แต่ถึงอย่างไรผู้ต้องหาก็ได้ยินยอมที่จะทำแผนในจุดอื่น ซึ่งจุดแรกคือหน้าวัดป่าชัยมงคล ถนนกระนวน-ซำสูง ซึ่งเป็นสถานที่ผู้ทีต้องหาขึ้นรถโดยสารหลังจากก่อเหตุสังหารนางรัศมีแล้ว

จากนั้นก็จะนำตัวไปทำแผนที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เป็นจุดที่นำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ในลานจอดรถของโรงพยาบาล  ต่อไปก็เดินทางไปยังจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบุรีรัมย์ และสถานีรถไฟปากช่อง เป็นจุดสุดท้ายที่ถูกควบคุมตัว ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลขอนแก่นในวันพรุ่งนี้เป็นอย่างช้า จึงขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าพนักงานสอบสวนทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ดังนั้นจึงขอวอนให้พี่น้องประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าทำร้ายผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสมคิด พุ่มพวง ออกจากห้องควบคุม สภ.กระนวน เพื่อขึ้นรถตู้ตำรวจนำตัวออกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในจุดแรก คือหน้าวัดป่าชัยมงคล ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของพี่น้องประชาชน ที่เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหา พร้อมตะโกนให้ประหารอย่างต่อเนื่อง  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคุมฝูงชนได้กันประชาชนไว้ห่างจากจุดทำแผนประมาณ 50 เมตร ก่อนที่จะนำตัวไปยังร้านอาหารหน้าวัด ขณะที่นายสมคิดนั่งรอรถ จากนั้นก็นำตัวไปยังรถสองแถว ซึ่งเป็นรถโดยสารระหว่างอำเภอกระนวน ขอนแก่น

ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปทำแผนต่อที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านที่ไม่พอใจจู่โจมเข้าใช้กำปั้นทุบเข้าที่ศีรษะนายสมคิดอย่างจัง ก่อนที่จะถูกกันตัวออกไป โดยนายฉัตรชัย มณีรอด อายุ 32 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บ้านติดกันกับผู้ตายกล่าวว่า ตนเองแค้นเป็นอย่างมาก ในการกระทำของคนร้าย อยากให้โทษประหารอย่างเดียว และตนสะใจเป็นอย่างมากที่สามารถระบายแค้นใส่หัวได้ 1 ครั้ง อยากให้ประหารตายตกไปตามกัน

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจทั่วประเทศ ดังนั้นในการแจ้งข้อกล่าวหานายสมคิดนั้น ได้ให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งได้ 3 ข้อกล่าวหาหนักคือ 1. ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยกระทำทารุณโหดร้ายทรมาน  2.ปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ และ 3.ลักทรัพย์หรือรับของโจร

หลังจากที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จที่จังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง แล้ว ได้นำตัวนายสมคิด ไปที่ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จุดสุดท้ายที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.กระนวน เพื่อเตรียมส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นผลัดแรกในวันพรุ่งนี้