หน่วยงานรัฐของรัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษเพื่อจับกุม นายแซร์เก โตรอป อายุ 59 ปี อดีตตำรวจจราจร ที่อ้างว่าตนเป็นพระเยซูกลับชาติมาประสูติ ทั้งยังตั้งลัทธิที่มีฐานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในไซบีเรีย ทางตะวันออกสุดของประเทศ มานานถึง 30 ปี
ปฏิบัติการดังกล่าวต้องบุกเข้าไปด้วยเฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง และจับผู้นำลัทธิรายนี้และมือขวาอีก 2 คน คือ นายวาดิม เรดกิน อดีตมือกลองของวงบอยแบนด์ยุคสหภาพโซเวียต และนายวลาดิมีร์ เวแดร์นิกอฟ ในความผิดเกี่ยวกับการตั้งองค์กรศาสนาผิดกฎหมาย การกรรโชกทรัพย์จากคณะศรัทธา และการหลอกลวงคณะศรัทธา
เมื่อจับกุมได้และนำตัวมายังสอบสวน นายโตรอป เผยว่า ตนตื่นรู้เกี่ยวกับความเชื่อนี้ในตอนที่ระบอบโซเวียตกำลังล่มสลาย และเมื่อปี 2534 ตนก็ตั้งกลุ่มความเชื่อนี้ขึ้นมาในชื่อคริสตจักรแห่งพันธสัญญาสุดท้าย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2555 นายโตรอปเคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเดอะการ์เดียน จากสหราชอาณาจักร ว่า "ผมไม่ใช่พระเจ้า คนชอบเข้าใจผิดว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ผมแค่ใช้ชีวิตตามพระวจนะของพระบิดาผู้เป็นเจ้า ทุกอย่างที่พระเจ้าอยากจะตรัสกับมนุษย์ พระเจ้าส่งข้อความเหล่านั้นผ่านตัวผม"
ลัทธิที่นายโตรอปขึ้นมานี้นำพิธีกรรมจากศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์มาประยุกต์เข้ากับหลักธรรมชาติและกฎเกณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ผู้ศรัทธาจะต้องทานอาหารมังสวิรัติ และแลกเปลี่ยนเงินกับโลกภายนอก นอกจากนี้จะต้องสวมเสื้อผ้าตามหลักของลัทธิอย่างเคร่งครัด ส่วนการนับปีศักราชก็จะเริ่มจากปี 2504 ซึ่งเป็นปีเกิดของนายโตรอป และเปลี่ยนวันคริสต์มาสมาเป็นวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดของผู้นำลัทธิรายนี้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าหลังจากนี้เจ้าหน้าที่รัฐจะดำเนินการกับนายโตรอปต่ออย่างไร และยังไม่ทราบว่าทำไมเจ้าหน้าที่รัฐถึงเลือกเวลานี้ในการจับกุมผู้นำลัทธิรายนี้ ทั้งที่ตั้งลัทธิมานานเกือบ 30 ปี ขณะที่สื่อท้องถิ่นของรัสเซียหลายสำนักอ้างว่าอาจะเป็นเพราะลัทธินี้มีข้อขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับธุรกิจในท้องถิ่นก็ได้