ผบ.สส. ย้ำ รัฐบาลไม่แนะนำให้เดินทางข้ามจังหวัด ขณะลดด่านตรวจโควิดเหลือ 312 จุด เพื่อกระจายประเมินความพร้อมผู้ประกอบการ
พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผบ.สส. กล่าวว่า การจัดตั้งจุดตรวจเคอร์ฟิว จุดตรวจโควิด รวมถึงการปฏิบัติจุดตรวจผ่านแดนต่างๆ ในตอนนี้สถานการณ์ควบคุมได้ ซึ่งทางกองทัพบกให้ความจริงจังในการดูแลตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจ สบายใจต่อการกลับมาของคนไทย ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ใช้การผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการกิจการบางประเภทให้ทำการได้ เช่น ร้านเสริมสวยต่างๆ จึงไม่อยากให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงนี้ ซึ่งประชาชนได้รับการบริการเหล่านี้เพิ่มขึ้น โดยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการเดินทางกันมากขึ้นอาจเป็นการเข้าใจผิดทำให้คลาดเคลื่อน จะต้องกลับมาทำความเข้าใจกันใหม่ ไม่อยากให้การ์ดตก การเดินทางกลับไม่ใช่คำแนะนะของรัฐบาลที่ให้ทำ ซึ่งยังกำหนดไว้ให้งดหรือลดการเดินทางข้ามเขตจังหวัด
โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ซึ่งสถานประกอบการใดใดก็ตามที่ได้รับการผ่อนผันให้เปิดบริการได้ จะต้องมีการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสตลอดเวลา, จะต้องจัดให้ประชาชนในสถานบริการมีหน้ากากอนามัย , จัดเจลแอลกอฮอล์ให้กับประชาชนได้ใช้, จัดให้มีการเว้นระยะห่างของผู้รับบริการ และ ทำให้ไม่มีความแออัดในสถานประกอบการหรือห้างร้านต่างๆ ซึ่งทาง ศบค. มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงไปตรวจสอบ และเก็บข้อมูลเรื่องผู้ประกอบการทำตามมาตรการของรัฐหรือไม่ หากห้างหรือผู้ประกอบการไม่ทำตามในครั้งแรกจะมีการตักเตือนและถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอีกจะมีการสั่งให้ปิดบริการ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการทำหนังสือคู่มือออกมา โดยเป็นการผ่อนคลายมาตรการไม่ใช่การผ่อนคลายตัวเอง จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างกัน รวมถึงคงวินัยในตนเองต่อไป ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะผ่อนคลาย เมื่อเดินทางไปแล้วจะต้องรับให้ได้กับมาตรการการตรวจสอบขากลับ
โดย พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า การปฏิบัติการของจุดตรวจต่างๆ การตรวจประเมินความพร้อมของผู้ประกอบการ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร และส่วนกลาง จะมีการจัดเตรียมทีมเพื่อตรวจสอบ ซึ่งจะมีการลดด่านตรวจโควิดเหลือ 312 จุด และด่านตรวจเคอร์ฟิวเหลือ 690 จุด เพื่อนำทีมไปตรวจสอบเชิงรุก