ข่มขู่พนักงานในร้านว่า “ให้อยู่ในความสงบ” ด้วยท่าทางใจเย็น ก่อนบังคับให้พนักงานนำทอง ใส่กระเป๋าผ้าที่เตรียมมา คนร้ายได้ทองรูปพรรณหนักกว่า 179 บาท เงินสดอีก 40,000 บาท ก่อนหลบหนี โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ 4 ก.ย. ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ควาามคืบหน้าล่าสุด วันที่ 6 ก.ย. ที่สน.บางพลัด พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ก่อนเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อสอบปากคำ พนักงานของร้านทองอีกครั้ง โดย น.ส.เอ ให้การว่า ตนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเพิ่งมาทำงานได้เพียง 2 เดือน
ขณะเกิดเหตุ คนร้ายไม่มีการปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาที่ร้าน พูดขู่ตนว่า ให้อยู่เฉยๆ ทองพวกนี่ไม่ใช่ของพวกคุณ พร้อมยกปืนขึ้นมาจี้และบอกตนว่า ให้เอาทองมา อีกทั้งยังขู่อีกว่า มีน้ำกรดมาด้วย ถ้าสาดไปจะทำให้เจ็บปวดนะ ด้วยควงามกลัวตนจึงหยิบทองให้คนร้าย โดยคนร้าย ได้เอาทรัพย์สินใส่ถุงผ้า ที่เตรียมมาใส่ ก่อนเดินออกไป สำหรับ ทองที่คนร้ายได้ไปเป็นสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ ทองคำ รวมน้ำหนัก 179บาท และเงินสด 40,000 บาท
พล.ต ต สุคุณ เปิดเผยว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้า โดยคนร้ายมาคนเดียว ใช้ปืนในการก่อเหตุ จอดรถจยย ไว้ด้านข้างของห้าง ก่อนจะเดินทางมาก่อเหตุ ส่วนกระดาษที่เขียนข้อความด้วยดินสอว่า นี่คือการปล้น แล้วส่งให้พนักงานที่ร้านทอง จะเป็น กระดาษเมนูของร้านชาบูที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ หรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า คนร้ายมานั่งกินก่อนก่อเหตุหรือไม่ ทั้งนี้คนร้ายไม่มีการปิดบังใบหน้า และที่ จ.นนทบุรี ก็มีแผนประทุษกรรม ในลักษณะที่คล้ายกัน ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่
รายงานข่าวระบุว่า คนร้ายใช้รถจยย. ฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน เป็นพาหนะ มาจอดใกล้กับทางออกของห้าง เมื่อก่อเหตุเสร็จ ได้ขี่จยย หลบหนีไปทาง ถ.สิรินธร ฝั่งขาออก เลี้ยวซ้ายเข้าถ. บรมราชชนนี วิ่งตรงไปแยกปิ่นเกล้า ก่อนจะเลี้ยวซ้าย แยกปิ่นเกล้า มุ่งหน้า สะพานพระราม8 แต่ไม่ได้ขึ้นสะพาน
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า คนร้ายเคยมาดูลาดเลาที่ร้านทองดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ก.ย ที่ผ่านมา โดยคนร้ายมากิน อาหารที่ร้านชาบู ก่อนจะเดินไปที่ร้านทอง โดยบอกกับพนักงานร้านทองว่า ถูกหวย และไม่ซื้อ ก่อนจะกลับมาก่อเหตุ เมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้