วันที่ 16 เม.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปที่ รพ.ศิริราช เพื่อตรวจติดตามการใช้งานระบบ AI ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย (จำกัด) นำไปติดตั้งเป็นอุปกรณ์ช่วยแพทย์พยาบาลวิเคราะห์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เบื้องต้นว่า คนไข้ที่มารับการรักษามีความเสี่ยงติดเชื้อหรือไม่ โดยระบบนี้ถูกนำไปใช้จริงแล้วในประเทศจีน ทั้งในเมืองอู่ฮั่น และอีกหลายๆ เมือง ในส่วนของประเทศไทยได้ติดตั้งแล้วที่ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช และจะขยายต่อไปยัง รพ.อื่นๆ ด้วย
ระบบ AI ดังกล่าว เก็บข้อมูลตัวอย่างผลการเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ราว 20,000 ราย ในจำนวนนี้มีผลเอ็กซเรย์ของผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ 4,000 ราย ดังนั้น เมื่อแพทย์พยาบาลทำ CT scan เพื่อเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ ระบบจะนำผลจากการเอ็กซเรย์ไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างภาพเอ็กซเรย์เพื่อวินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโควิดหรือไม่ โดยแต่ละเคสใช้เวลาวิเคราะห์เพียง 25 วินาทีเท่านั้น เพราะระบบรองรับด้วยเครือข่าย 5G ซึ่งถือว่ารวดเร็วและแม่นยำมาก
ประโยชน์ของระบบ AI นี้ จึงช่วยลดความเสี่ยงของทั้งประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมาก เนื่องจากการทำ CT Scan ทำให้แพทย์ไม่ต้องสัมผัสกับคนไข้ เมื่อคัดกรองแล้วพบว่ามีความเสี่ยงสูง จึงค่อยเข้าสู่กระบวนการตรวจสารคัดหลั่ง ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ในการยืนยันผล
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้พูดคุยกับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามการปฏิบัติงานและให้กำลังใจทุกคน โดยย้ำว่าตนและรัฐบาลยกย่องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งต้องเสียสละ ทำงานหนัก และมีความเสี่ยงอย่างมาก โดยยินดีสนับสนุนทุกวิถีทาง เพื่อดูแลช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน เช่นล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) ครม. ก็ได้อนุมัติให้เงินพิเศษ ให้โควต้า 2 ขั้น อายุราชการทวีคูณ จ่ายเงินบุคลากรที่ติดเชื้อ และทำประกันสุขภาพให้ 320,000 กรมธรรม์