แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้นตีตั๋วลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้า ได้คิวเปิดบ้านพบทีมหนีตายอย่าง บอร์นมัธ โดยเจ้าบ้านนั้นจัดขุมกำลังมาแบบชุดใหญ่ใส่เต็ม นำโดยคู่หู บรูโน่ เฟร์นานเดซ และ ปอล ป๊อกบา ขณะที่ 3 ประสานแนวรุกเลือก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล , มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ลงล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนต้องขาด คัลลั่ม วิลสัน หัวหอกตัวเก่ง และเลือกใช้ โจชัว คิง เล่นร่วมกับ โดมินิค โซลันกี้ แทน
เกมออกสตาร์ทโดยที่ แมนฯ ยู เหนือกว่าทุกรูขุมขน แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็ต้องมาเสียประตูจากจังหวะบุกครั้งแรกของ บอร์นมัธ อย่างไม่น่าเชื่อ ภายหลังจากที่ จูเนียร์ สตานิสลาส เก็บตกบอลจังหวะ 2 ได้ และดึงบอลเตะลอดขา แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่มุมแคบแบบเหนือชั้น ก่อนจะยิงยัดเสาแรกใส่ ดาบิด เด เคอา ไปอย่างสุดยอด ส่งให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ช็อคตาตั้ง
อย่างไรก็ตาม “ปีศาจแดง” ไม่ได้ออกอาการหวั่นไหวแต่อย่างใด และพยายามเดินเกมรุกด้วยความหวือหวาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 29 ในจังหวะที่ บรูโน่ จับบอลหน้าเขตโทษ และถ่างบอลเร็วให้ กรีนวู้ด เตะเข้ากรอบเขตโทษ 1 ที และซัดด้วยซ้ายข้างถนัดเต็มข้อ พาทีมตีเสมอสำเร็จ 1-1 ซึ่งทำ บอร์นมัธ เสียกระบวน และมาโดนเพิ่มหลังจากนั้นอีก 6 นาทีถัดมา ภายหลังจากที่ มาร์กซิยาล ไปโดนดึงในกรอบเขตโทษร่วง และก็เป็น แรชฟอร์ด ตีโค้งวิ่งเข้าไปยิงไม่พลาด พาทีมขึ้นนำ 2-1
ถึงตรงนี้ ความมั่นใจ “ผีแดง” เพิ่มขึ้นล้นหลาม และมาได้ลูกฉีกเป็น 3-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล รับบอลจาก บรูโน่ ตรงมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วแต่งบอลตัดเข้าในยิงลูกโค้งเข้าเสาไกลไปแบบโหดเหี้ยม จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง บอร์นมัธ พยายามออกตัวแบบคึกคัก และก็มาได้ลูกตีไข่แตก 2-3 จากความผิดพลาดของ เนมานย่า มาติช ที่เคาะบอลคืนหลังแรง และ เอริค ไบยี่ กึ่งๆ ใช้มือแตะโดนบอลในกรอบ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และก็เป็น โจชัว คิง ซัดเข้าไป อย่างไรก็ตาม ชั่วโมงนี้เกมรุก แมนฯ ยู ดุดันมาก และมาดับความหวังของผู้มาเยือนในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ กรีนวู้ด รับบอลในกรอบเขตโทษ และแตะออกไปเข้าเท้าขวา ซึ่งเป็นข้างที่ไม่ถนัด แต่ก็จบสกอร์ได้เฉียบคมสุดๆ ยิงลูกพุ่งเข้าสู่ก้นตาข่ายไปอีกครั้ง ส่งให้ “ปีศาจแดง” ฉีกเป็น 4-2 ก่อนจะมาได้เพิ่มเป็น 5-2 ในอีก 5 นาที จากลูกฟรีคิกของ บรูโน่ ที่ปั่นหนีกำแพงเข้าไปแบบสะใจกองเชียร์ทางบ้านสุดๆ และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
ผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน ได้ลุ้นคว้าพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชลซี ต่อไป ขณะที่ บอร์นมัธ ยังหยุดอยู่ที่ 27 แต้ม รั้งเป็นรองบ๊วยต่อ
11 ผู้เล่นตัวจริงของ แมนฯ ยู : ดาบิด เด เคอา , แฮร์รี่ แม็คไกวร์ , วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ , อารอน วาน บิสซาก้า , ลุค ชอว์ , เนมานย่า มาติช , บรูโน่ เฟร์นานเดซ , ปอล ป๊อกบา , มาร์คัส แรชฟอร์ด , อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล , เมสัน กรีนวู้ด
11 ผู้เล่นตัวจริงของ บอร์นมัธ : อารอน แรมสเดลล์ , นาธาน อาเก้ , ลอย เคลลี่ , ดีเอโก้ ริโก้ , อดัม สมิธ , ลูอิส คุ้ก , เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา , เดวิด บรู๊ค , จูเนียร์ สตานิสลาส , โดมินิค โซลันกี้ , โจชัว คิง