บราซิลถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตโควิด-19 อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็กำลังพิจารณาห้ามผู้ที่เดินทางมาจากบราซิลเข้าสหรัฐอเมริกา
โดยในวันอังคารที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในบราซิล เพิ่มขึ้นอีก 1,179 คน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 17,408 คน ซึ่งถือเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อมากที่สุด ทำให้จนถึงขณะนี้บราซิลมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วกว่า 270,000 คน มากที่สุดเป็นอันดับสามรองจากสหรัฐฯ และรัสเซีย และเสียชีวิตแล้วเกือบ 18,000 คน ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล
ประธานาธิบดีบราซิล ฮาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งมีความสนิทใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกวิจารณ์อย่างมากเรื่องการรับมือกับการระบาดใหญ่ครั้งนี้ จากการต่อต้านมาตรการล็อคดาวน์เนื่องจากหวั่นจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ฮาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีบราซิล
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขบราซิล เนลสัน เทอิช ได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ถูกบังคับให้ลงนามรับรองการใช้ยาต้านมาลาเรีย คลอโรควีน ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ถือเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขคนที่สองของบราซิลที่ลาออกจากตำแหน่งในช่วงหนึ่งเดือน
อย่างไรก็ตาม ปธน.โบลโซนาโร กล่าวว่า รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิล จะประกาศแนวทางใหม่ในเร็ววันนี้ เพื่อแนะนำให้ใช้ยาดังกล่าวอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้กล่าวว่า ตนใช้ยาคลอโรควีนในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกำลังพิจารณาห้ามผู้ที่เดินทางมาจากบราซิลเข้ามาในสหรัฐฯ แต่จะใช้วิธีช่วยเหลือบราซิลด้วยการจัดส่งเครื่องช่วยหายใจให้แทน