นายจิต เชี่ยวสกุล นายสนามมวยเวทีราชดำเนิน เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ กรณี 4 โปรโมเตอร์ในเครือของเวที จากจำนวนทั้งสิ้น 13 คน ประกาศขอถอนตัวจากการทำหน้าที่โปรโมเตอร์ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้แก่ นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ (ศึกเชฟบุญธรรม) ,"เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ (ศึกเพชรยินดี),"มิตร นคร" สุเมธ ซื่อสัตตบงกช (ศึกวันมิตรชัย) และ นายกิ่งทอง นาคสินธุ์ (ศึกวันกิ่งทอง) เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่เวทีมวยราชดำเนิน
ประเด็นสำคัญในวันนี้ นายจิต เผยว่า เดิมทีนั้นตนกับคุณโบ๊ทสนิทสนมกันมานาน เป็นคนหนุ่มรุ่นเดียวกัน ในฐานะตนเป็นรุ่นพี่ยอมรับว่าไม่เคยมีปัญหาใดๆต่อกัน เพียงแต่สาเหตุ อันเป็นชนวนรอยร้าวเกิดขึ้น เนื่องจากคุณโบ๊ทนั้นได้ไลฟ์สดทางโซเชียลทำนองตำหนิการทำงานของเวทีราชดำเนินหลายครั้ง ซึ่งพอโดนตำหนิบ่อยๆหลายๆครั้ง ตนเลยมีอารมณ์และตอบโต้กลับไป แต่ขอย้ำว่า ตนกล่าวไปนั้นในฐานะของความเป็นพี่น้องกัน ไม่ใช่ฐานะของนายสนาม เพราะปัญหาหลายเรื่องที่คุณโบ๊ทยกขึ้นมา อาทิ กรณีอยากให้ทางเวทีนั้นลดค่าเช่าสนามมวย หรือข่าวลือเรื่องจะปลดโปรโมเตอร์ออกจากเวทีนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง
ซึ่งตนต้องขอชี้แจงในกรณีอย่างเช่น เรื่องการลดค่าเช่านั้น ตนไม่สามารถตัดสินใจกำหนดได้เอง ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหารคณะกรรมการเป็นสำคัญ เพราะปกติสนามต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งค่าจ้างพนักงานซึ่งเป็นภาระหนักอยู่แล้ว
ส่วนอีกประเด็นเรื่อง การประชุมที่ว่า ไม่เชิญคุณโบ๊ทไปร่วมหารือที่ ทั้งที่ซอยราชครู และที่ซอยทองหล่อ ตามข่าวลือนั้น ขอยืนยันว่า นั่นไม่ใช่การประชุม แต่เป็นเพียงแค่การพูดคุยหารือทานกาแฟ ส่วนตัวกับโปรโมเตอร์บางคนเท่านั้น
ส่วนคำถามที่ว่า การที่ 4 โปรโมเตอร์ใหญ่ถอนตัวออกจากราชดำเนินจะส่งผลกระทบใดๆบ้างหรือไม่นั้น นายจิต เชี่ยวสกุล กล่าวว่า ไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น เพราะตนยังมี 9 โปรโมเตอร์ช่วยทำหน้าที่ตามปกติ และจะไม่มีการแต่งตั้งใครมาเพิ่ม แต่ตนยินดีและพร้อมต้อนรับทั้ง 4 เหล่านั้นกลับมาร่วมงานเช่นเดิม
นายสนามมวยราชดำเนิน กล่าวถึง แนวทางการบริหารงานในช่วงรอปลดล็อกจากวิกฤตไวรัสโควิดอีกว่าปัจจุบันราชดำเนิน ไม่มีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทีวีช่องใด เนื่องจากไม่มีการจัดแข่งขันในช่วงเฝ้าระวัง แต่กำลังวางแผนปรับการจัดรูปแบบออนไลน์ ซึ่งคงเป็นระบบ นิวนอร์มอล จัดมวยแบบปิด ไม่มีคนดู
ทางเวทีฯพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ในส่วนค่าตัวนักมวยนั้น ทางโปรโมเตอร์ จะเป็นผู้แบกรับภาระส่วนนั้นไป ทั้งนี้เป็นการร่วมมือกัน ทำอย่างไรได้เพื่อให้นักมวยได้มีโอกาสกลับมาทำมาหากินได้โดยเร็วที่สุดตามวิชาชีพของเขา เพื่อหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว