(11 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนร่มเกล้า ย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร หลังได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่เกิดเหตุพบศพ นายเอกชัย อายุ 22 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ ถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนพื้นกลางถนน
โดยใกล้กันพบปืน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ 1 คัน โดยมีรถจักรยานยนต์สีดำจอดอยู่ริมถนน ร่มเกล้าตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 3-4 นัด
จากการสอบถามทราบว่า ขณะกำลังขับรถกลับจากงานครบรอบสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ หลังเลิกงานประมาณเที่ยงคืนได้ทยอยส่งรุ่นน้องมาตามเส้นทาง จนถึงจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์ขี่ตามประกบรถของผู้เสียชีวิตแล้วมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมีรถกระบะขับมาปาดหน้าจนรถล้ม จากนั้นมีคนยิงปืนจากภายในรถ ทำให้นายเอกชัยเสียชีวิต
ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนที่ยิงปืนใส่นายเอกชัยอ้างตัวเป็นตำรวจ เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อเพื่อนของผู้เสียชีวิตขอดูของกลาง แต่ผู้ต้องสงสัยไม่สามารถนำของกลางมาดูได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่เกิดเหตุมีเพื่อร่วมสถาบันของผู้ตายได้ตะโกนต่อว่าชายสวมเสื้อยืดสีแดง เพราะเชื่อว่าเป็นคนลั่นไกฆ่าเพื่อน และขณะที่ตำรวจกำลังนำชายต้องสงสัยขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่เพื่อหลบฝน กลุ่มนักเรียนกว่า 50 คน ได้วิ่งตรงไปที่รถและเริ่มทุบรถและทำร้ายร่างกายชายเสื้อแดงจนเกิดเหตุชุลมุน
และนายเสื้อแดงได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมขึ้นลำปืนและชี้ไปที่กลุ่มนักเรียนก่อนที่นักเรียนจะพากันหยิบก้อนอิฐและขวดปาเข้าใส่ ตำรวจจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มนักเรียน 4 นัด ท่ามกลางสายตาประชาชน รถที่สัญจรไปมา และผู้สื่อข่าวที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จนต้องวิ่งหลบหนีตายกันอลม่าน ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่มารับนายตำรวจคนนี้หลบหายไป
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 5 คน โดยมีรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ขับประกบรถกระบะของเจ้าหน้าที่อีกชั้นหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางกลับประสบเหตุถูกผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ กระสุนถูกที่หน้าขาของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเกิดการยิงต่อสู้กัน
จนกระทั่งสิ้นเสียงปืนจึงพบผู้ตายนอนแน่นิ่งจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนทราบว่าเป็นเหตุดังกล่าว หลังจากนี้จะเรียกพยานที่เกิดเหตุพร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 เข้ามาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย