วานนี้(11 พ.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวกรณี "ตู้ปันสุข" ที่กลายเป็นไวรัลในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่นอกเหนือจากแง่มุมดีๆ จากการให้และแบ่งปันซึ่งกันและกัน ก็ยังมีอีกแง่มุมที่ไม่ดีนัก เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยผู้โพสต์ระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของตนเอง ที่ตั้งตู้ปันสุขไว้หน้าบ้าน แต่กลับกลายเป็นเรื่องเศร้า เมื่อเจ้าของบ้านกลับถูกคุกคาม และด่าทอ เพียงเพราะเก็บตู้เข้ามาในบ้านเพื่อหลบฝน โดยข้อความระบุว่า
เราทำตู้ปันสุข แจกของ วางตู้หน้าบ้าน ก็เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น ว่าใครจะมาหยิบอะไรตอนไหนบ้าง
ลูกชายบอก ถ้าเขามาหยิบหมดเลย หรือหยิบไปเยอะๆล่ะ เราก็บอก เอาเหอะ ตั้งใจจะให้แล้ว ก็เรื่องของเขา
เขาจะหยิบอะไรไป ช่างเขา เราไม่ขาด เราตั้งใจให้ คนที่มาหยิบส่วนใหญ่ หยิบแต่พอดี ไม่ถึงกับกอบโกย
มีเขียนขอบคุณ เราก็ชื่นใจ
วันนี้ฝนตกหนัก ของหมดด้วย เลยยกตู้หลบเข้าบ้านมาก่อน แต่ป้ายยังแขวนอยู่ เราออกไปทำธุระนอกบ้าน กะว่ากลับถึงบ้าน จะเอาออกไปวางใหม่
แม่บ้านโทรมาบอกว่า มีคนวนเวียนมาหลายรอบ มาถือถุงกางรอเลย มาถามว่าจะเติมของกี่โมง (ทั้งๆ ที่ไม่มีตู้อยู่ตรงนั้น แต่น่าจะบอกต่อๆ กันมา)
มีแบบนั่งซาเล้งมากัน 7-8 คนก็มี คนที่ทนไม่ไหว กดกริ่งเรียกหลายครั้ง จนแม่บ้านต้องโทรบอกเรา
เลยให้บอกไปว่าเก็บตู้ เพราะฝนตก และของหมด เดี๋ยวเจ้าของบ้านกลับมาจะมาตั้งใหม่ มีคนไม่ยอมกลับ นั่งรอหน้าบ้านเลย
เลยต้องบอกแม่บ้าน ว่าให้เก็บป้ายลงก่อน แม่บ้านโดนคนตะโกนด่า บอกว่าแล้วจะติดป้ายทำไมโว้ย
คือพูดไม่เพราะ ตะโกนเข้ามาเลย
คือมาถึงแล้ว ไม่ได้ของ ก็บอกว่าเดือดร้อน มากันไกล มีคนแก่ มีคนพิการนั่งมาในซาเล้งด้วย ที่เกาะรั้วแล้วตะโกนอะ ไม่น่ารักแล้วอะเนี่ย มายืนตะโกนหน้าบ้านแบบนี้ น่ากลัวไหมอะ"
ปล.เพิ่มเติม มันเป็นแนวคิดที่ดี ตอนที่เพื่อนทำด้วยความใจบุญเลยอาจลืมคิดรอบคอบ ใครที่จะทำต่อก็วางแผนหาสถานที่ การจัดการไว้หน่อยก็ดีครับ