นับเป็นสกอร์ที่เหลือเชื่อไม่น้อย สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์รายการเวลช์โอเพ่น 2020 รอบชิงชนะเลิศ หลังจาก “พ่อมดน้อย” ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 10 ของโลกจากอังกฤษ ไล่ต้อนเอาชนะนักสอยคิวฟอร์มแรงในรายการนี้อย่าง ไคเรน วิลสัน มือ 8 ของโลกจากชาติเดียวกันไปถึง 9-1 เฟรม ในการแข่งขันที่มอเตอร์พอยท์อารีนา กรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คว้าแชมป์เวลช์โอเพ่นไปครองเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ 

    หลังจากก่อนหน้านี้ เคยเข้าชิงในศึกเวลช์โอเพ่น 2006 เมื่อ 14 ปีก่อน แต่แพ้ สตีเฟ่น ลี นักสอยคิวหุ่นถังเบียร์ชาวอังกฤษ ที่กำลังโดนเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) แบนยาวอยู่ในขณะนี้ 4-9 เฟรม 

    ความสำเร็จกับการคว้าแชมป์เวลช์โอเพ่น 2020 นับเป็นแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 9 ของ ฌอน เมอร์ฟี่ และเป็นแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 2 ของเขาในฤดูกาลต่อนี้ต่อจากศึกไชน่าแชมเปี้ยนชิพ 2019 ที่นครกวางโจว ประเทศจีน เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา 

    พร้อมกับคว้าเงินรางวัลไปครอง 70,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,800,000 บาท ได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 70,000 คะแนน ขยับจากอันดับ 10 ขึ้นมารั้งอันดับ 9 ของโลก และมีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้(one year ranking) อยู่ในอันดับ 2 เป็นรอง จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกเพียงคนเดียวเท่านั้น 

 และมีผลให้แชมป์โลกเมื่อปี 2005 คว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการใหญ่อย่างเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่เมืองเซาธ์พอร์ต ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึง 1 มีนามคม เป็นที่แน่นอนแล้ว หลังจากปีก่อน เขาไม่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการนี้ เนื่องจากคะแนนสะสมประเภท(one year ranking) ในตอนนั้นไม่ติด 1-16 

    ขณะที่ ไคเรน วิสัน คว้าเงินรางวัลสำหรับรองแชมป์เวลช์โอเพ่นในปีนี้ไปครอง 30,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1,200,000 บาท และยังได้รับเงินรางวัลสำหรับเบรกสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์อีก 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 200,000 บาท จากการทำแม็กซิมั่มเบรก

    พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 24,000 คะแนน ยังคงรั้งอันดับ 8 ของโลกเหมือนเดิม ส่วนคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้ รั้งอันดับ 11 การันตีในการผ่านเข้าไปแข่งขันศึกเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020 เช่นกัน ไม่ว่าผลงานในศึกชู้ตเอาท์ 2020(เฟรมเดียวแพ้คัดออก) ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นอย่างไรก็ตาม    

  เฟรมที่ 5 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

    ก่อนที่เกมการดวลคิวรอบชิงจะเริ่ม มีแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อย ที่มองว่า ไคเรน วิลสัน มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ เนื่องจากรายการนี้ เขาฟอร์มแรงมาก จนสามารถเอาชนะนักสอยคิวฝีมือพระกาฬหลายคน อาทิ การเอาชนะ ติง จุ้น ฮุย มือ 11 ของโลกจากจีน เจ้าของแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2019 ในรอบ 16 คนสุดท้าย 4-2 เฟรม, ต่อด้วยในรอบก่อนรองชนะเลิศ สามารถถล่มนักสอยคิวฟอร์มแรงอย่าง นีล โรเบิร์ตสัน มือ 2 ของโลกจากออสเตรเลีย ที่ก่อนหน้านี้ เข้าชิง 3 รายการภายใน 3 สัปดาห์ ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 5-0 เฟรม และในรอบตัดเชือก เฉือนเอาชนะ “เดอะร็อคเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ ที่มุ่งมั่นกับการคว้าแชมป์รายการนี้ ไปด้วยสกอร์ 6-5 เฟรม

    แถมรอบแรก(128 คน) ในแมตช์ที่เอาชนะ แจ็คสัน เพจ มือ 101 ของโลกจากเวลส์ 4-3 เฟรม ไคเรน วิลสัน ยังสามารถทำแม็กซิมั่มเบรก 147 แต้มได้อีกด้วย

    ทว่าพอถึงรอบชิงชนะเลิศ เสมือนเขาได้ปลดปล่อยฟอร์มการแทงที่ยอดเยี่ยม ออกไปกับรอบที่ผ่านๆมาหมดแล้ว ก่อนจะโดน ฌอน เมอร์ฟี่ เอาชนะอย่างง่ายดายเกินคาด โดยในเซสชั่นแรก เมอร์ฟี่ นำห่างถึง 6-0 เฟรม 

    จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ในเฟรมที่ 5 ที่ ไคเรน วิลสัน มีโอกาสไล่มาเป็น 1-4 เฟรม จากการที่เขาตบไม้เดียว 64 แต้ม จนมีแต้มนำ เมอร์ฟี่ 60 คะแนน (64-4 คะแนน) ในขณะที่บนโต๊ะเหลือ 4 แดง(59 แต้ม) แต้มขาด 1 สนุ้กก็จริง ทว่าแดงอีกลูกที่เขาต้องการ เพื่อเอาชนะไปอย่างเด็ดขาดในเฟรมนี้ กลับเช็ดบางเกินไปจนไปจ่อปากหลุม ก่อนจะโดน ฌอน เมอร์ฟี่ เข้าเบรก ไล่วางสนุ้ก แล้วกลับมาปล้นเอาชนะในเฟรมนี้ไปในที่สุด

    การแพ้ในเฟรมที่ 5 ในแบบโดนปล้นกลับมาแพ้ ทั้งๆที่ขึ้นนำจนแต้มขาดไปแล้ว มีผลอย่างยิ่งต่อความมั่นใจของ ไคเรน วิลสัน จนทำให้แพ้ไปอย่างง่ายดาย

   ด้าน “เดอะร็อคเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่จากการตกรอบรองชนะเลิศ หลังจากแพ้ ไคเรน วิลสัน 5-6 เฟรม ได้ทำให้เขาได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 10,000 คะแนน ขยับจากอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของโลก 

    ขณะที่อันดับคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้(one year ranking) ขยับจากอันดับ 20 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 16 นับเป็นอันดับสุดท้ายที่จะคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันรายการใหญ่อย่างเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่เมืองเซาธ์พอร์ต ประเทศอังกฤษ ในสัปดาห์ต่อไป โดยแชมป์รายการนี้ ได้ได้รับเงินรางวัลสูงถึง 125,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5,080,000 บาท และ รอนนี่ เป็นแชมป์มาแล้ว 2 ปีหลังสุด

การรั้งอันดับ 16 ในคะแนนสะสมประเภท one year ranking เป็นสิ่งที่ยังไม่การันตีว่า รอนนี่ จะเข้าไปลุ้นแชมป์เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ สมัยที่ 3 ติดต่อกันหรือไม่ 

    จึงทำให้อดีตแชมป์โลก 5 สมัยรายนี้ ตัดสินใจลงแข่งขันรายการชู้ตเอาท์ 2020 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ “เดอะร็อคเก็ต” กลับมาดวลคิวในศึกเฟรมเดียวน็อคเอาท์

    หากเขาสามารถเข้ารอบลึกๆ ก็มีโอกาสที่จะคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020 แต่หากพลาดท่าตกรอบแรกๆขึ้นมา ก็อาจชวดลงแข่งขันรายการที่เข้าคว้าแชมป์มาแล้ว 2 ปีหลังสุดเช่นกัน ซึ่งจะมีผลให้คะแนนสะสมของเขา โดนหักถึง 125,000 คะแนนเลยทีเดียว

    แฟนสนุกเกอร์หลายท่านอาจมีความเห็นว่า รอนนี่ ไม่ได้แคร์หรือกังวลกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากอิ่มตัวกับความสำเร็จแล้ว แต่หากไม่แคร์จริง เขาจะลงแข่งขันชู้ตเอาท์ไปทำไม ทั้งๆที่รายการนี้ เขาปฏิเสธที่จะลงแข่งขันมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

    น่าติดตามว่า รอนนี่ โอซัลลิแวน จะมีผลงานในรายการชู้ตเอาท์ 2020 เป็นอย่างไร และท้ายที่สุดแล้ว เขาจะได้โควตาไปแข่งขันรายการเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020 หรือไม่ แฟนสนุกเกอร์ต้องคอยติดตาม