พลเมืองดีสาวช่วยชีวิตผู้หญิงที่พยายามจะกระโดดสะพานลอยและวิ่งให้รถชน จนตัวเองบาดเจ็บและต้องทิ้งตั๋วรถกลับบ้าน
(24 ก.ย.63) เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงพยายามจะกระโดดสะพานลอยและวิ่งข้ามถนนให้รถชนเพื่อฆ่าตัวตาย ที่บริเวณ สะพายลอยคนข้ามหน้าตลาดกิ่งแก้ว ถนนเทพรัตน หลักกิโลเมตรที่ 12 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ้งและกู้ชีพ อบต.บางพลีใหญ่ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้พบชาวบ้านกำลังช่วยกันเกลี่ยกล่อมหญิงสาวรายหนึ่งอายุประมาณ 31 ปี ทราบเพียงว่าเป็นชาวนครสวรรค์ ที่พยายามวิ่งข้ามถนนไปมาเพื่อต้องการให้รถชน ก่อนที่จะหนีขึ้นไปบนสะพานลอยเตรียมที่จะกระโดดลงมาด้านล่าง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ นางสาวพจนีย์ มลาสินธ์ อายุ 31 ปี เดินสวนทางมาและกระโดดเข้าคว้าข้อมือเอาไว้ได้และช่วยเหลือเข้ามาทัน ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมากต่างพากันโล่งใจ ชาวบ้านต้องปลอบใจกันอยู่พักใหญ่หญิงคนดังกล่าวอารมณ์เริ่มคลี่คลาย และรับปากกับทางเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก
ส่วนนางสาวพจนีย์ พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ รับบาดเจ็บที่นิ้วมือข้างซ้ายจนต้องใช้ผ้าก็อตพันด้ามนิ้วมือไว้ก่อนจะไปให้แพทย์ทำการตรวจรักษา
นางสาวพจนีย์ ได้เล่าว่า ตนพึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสระแก้ว มาหาเพื่อนที่ทำงานในย่านอำเภอบางพลี เพื่อให้ช่วยหางานให้ทำ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงินเพราะมารดาที่บ้านเกิดนั้นไม่สบาย แต่ปรากฏว่ามาอยู่ได้สามวันแต่ก็ยังหางานทำไม่ได้ วันนี้จึงตัดสินใจจองรถตู้เพื่อจะกลับไปดูแลแม่ ที่ป่วยที่อยู่ที่บ้าน ขณะที่มายืนรอขึ้นรถที่หน้าตลาดกิ่งแก้ว ระหว่างนั้นหันไปเหตุหญิงสาวคนดังกล่าวพยายามวิ่งข้ามถนนไปให้รถชนและมองดูแล้วคล้ายมีอาการเครียดอย่างหนัก จังหวะที่ตนกำลังจะก้าวขึ้นรถ ได้เห็นหญิงคนดังกล่าววิ่งข้ามถนนมาซึ่งจังหวะนั้นมารถวิ่งมาด้วยความเร็ว ตนจึงตัดสินใจวิ่งไปกระชากข้อมือหญิงคนดังกล่าวเข้ามาข้างทางได้อย่างหวุดหวิด
ซึ่งตอนนั้นคิดว่าอาการจะสงบแล้วแต่เหตุการณ์ระทึกขวัญก็เกิดขึ้นอีกเมื่อ จู่ๆ หญิงสาวคนดังกล่าวได้วิ่งขึ้นสะพานลอยและพยามจะกระโดดลงมาด้านล่าง ที่มีรถวิ่งจำนวนมากจึงตัดสินใจวิ่งตามขึ้นมาก่อนจะคว้าตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไว้ได้ทันจนนิ้วมือข้างซ้ายไปกระแทกกับราวเหล็กอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ชาวบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือ
จากการสอบถามหญิงสาวผู้ก่อเหตุ ได้เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายผักที่ตลาดแห่งหนึ่งย่านบางพลี อีกทั้งลูกของตนเองที่อยู่บ้านเกิดโทรมาหาเมื่อเช้าว่ามีอาการแน่นหน้าอกและไม่สบาย ทำให้ตนเป็นห่วงลูกมากจนเกิดเป็นความเครียดประกอบกับมีปากเสียงกับแฟน จึงน้อยใจตัดสินใจจะมาขึ้นรถกลับไปหาลูก แต่เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนี้ตนเองรับปากกับทางเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ก่อเหตุอีกและจะเดินทางกลับไปหาพ่อแม่และลูกๆ ที่บ้านเกิด พร้อมทั้งขอโทษเจ้าหน้าที่รวมถึงนางสาวพจนีย์ที่ทำให้ต้องเดือดร้อนและเสียเวลา