วันนี้ (8 พ.ค.) นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงถึงการเดินทางในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และช่วงเวลาเคอร์ฟิว ว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปรับเรื่องของการให้บริการ การเดินทางในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ที่มีการให้บริการด้านการเดินทางและขนส่งระหว่างจังหวัด มีการออกประกาศเรื่องของการควบคุมพื้นที่ และควบคุมกิจกรรมต่างๆ พร้อมกับมีการกำหนดเวลาในการเดินทางช่วงเวลาเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. ที่ไม่สามารถเดินทางได้
ทางกระทรวงคมนาคม ได้ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางที่ให้บริการระหว่างจังหวัด ระงับการเดินทางจำนวน 200 เส้นทาง จากเดิมที่มีประมาณ 800 กว่าเส้นทาง เพราะต้องการที่จะควบคุมในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และส่วนหนึ่งได้ระงับหรืองดการเดินรถไฟระหว่างจังหวัด เพราะติดปัญหาเรื่องของเวลาเคอร์ฟิว โดยให้เหลือเพียงการเดินทางระยะสั้นไม่เกิน 300 กิโลเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ พบว่า มีประชาชนเดินทางมากขึ้นโดยเฉพาะใน กทม. และปริมณฑล มีการใช้รถไฟฟ้าค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้จัดเตรียมแผนปฏิบัติการให้ผู้โดยสารมีความเสี่ยงน้อยที่สุด และพบว่ามีการจัดการดีขึ้นมาก เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือ
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อร้องเรียนเรื่องระยะเวลาในการรอ จึงขอชี้แจงว่าโดยปกติรถไฟฟ้าบีทีเอส 1 ขบวน บรรจุผู้โดยสารได้ 1,000-1,100 คน แต่เมื่อมีมาตรการระยะเว้นห่างทางสังคม ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข จึงทำให้ต้องลดจำนวนผู้โดยสารให้เหลือเพียง 250 คนต่อขบวนเท่านั้น ลดลง 1 ใน 4 ซึ่งถือเป็นความจำเป็นที่ต้องลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของผู้ใช้บริการ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ
นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จะต้องมีการเพิ่มความถี่ของการเดินรถให้เพียงพอหรือไม่นั้น ความจำเป็นในการเว้นระยะห่างจะต้องมี และเมื่อมีคนใช้บริการมากขึ้นจำเป็นต้องปรับขบวน เพิ่มขีดการเดินรถให้เต็มพิกัด ซึ่งมีการเก็บข้อมูลและหน่วยงานต่างๆ มีการปรับการเดินขบวนรถให้มากขึ้น แต่ไม่สามารถเพิ่มให้ถี่มากขึ้น เพราะต้องเว้นระยะเวลาการให้บริการในแต่ละขบวนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 นาที ถ้าน้อยกว่านี้อาจเกิดความไม่ปลอดภัย
ส่วนการเดินทางด้วยรถเมล์และการใช้เรือโดยสาร ก็พบปัญหาความแออัด แต่อยากให้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรการของกระทรวงคมนาคมเพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการเดินทางทางอากาศ ว่า ขณะนี้มี 5 สายการบินกลับมาให้บริการ และเปิดสนามบิน 18 แห่งทั่วประเทศเพื่อรองรับการเดินทางเฉพาะผู้เดินทางในประเทศเท่านั้น โดยมีข้อกำหนดระยะเวลา 07.00-19.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ระยะเวลาการเดินทางเกินช่วงเวลาเคอร์ฟิว พร้อมแนะนำประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด ให้ศึกษามาตรการต่างๆ ของแต่ละจังหวัดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อเดินทางไปถึงยังปลายทาง
นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า กระทรวงคมนาคมห่วงใยผู้เดินทางที่เดินทางในทุกช่องทาง จึงได้กำหนดข้อปฏิบัติให้ทั้งผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งขอร้องประชาชนที่มีไข้ ให้งดเดินทาง และให้ความร่วมมือผ่านจุดตรวจคัดกรอง ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากตลอดเวลา รวมทั้งกระทรวงเองก็ให้ความปลอดภัยในเรื่องการฆ่าเชื้อทำความสะอาด ขณะที่พนักงานก็มีการดูแลสุขภาพอย่างดี เพื่อไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อ
ขณะที่ปลัดกระทรวงคมนาคมปิดท้ายว่า ต้องขอความกรุณาบริษัทเอกชนให้ความร่วมมือในการ Work form Home หรือเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดปริมาณและลดความหนาแน่นในการเดินทาง จะได้ไม่เกิดความแออัดจนเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19