จากกรณีที่มีสมาชิกรายหนึ่งในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “สมาคมรักรอยสักแห่งประเทศไทย” นำภาพของหญิงสาววัยรุ่นในอิริยาบถ ยืนถกกางเกงยีน โชว์แก้มก้นให้เห็นรอยสักหลากสีสัน อยู่บนอาคาร “พาสาน” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และตั้งอยู่ตรงจุดต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา จนทำชาวนครสวรรค์ที่เห็นรูปชุดดังกล่าวหลายรายเกิดจุดกระแสความไม่พอใจ โดยมีการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา แต่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นภาพอนาจาร พร้อมกับมีการตั้งคำถามถึงภาพถ่ายที่เป็นรูปอาร์ตศิลปะ แต่กลับไปถ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มันมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ยังได้มีการสร้างที่ประดิษฐานขององค์เจ้าเเม่กวนอิม อีกทั้งอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้าคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวนครสวรรค์ต่างให้เคารพศรัทธาอย่างมากอีกด้วย จึงอยากให้มีการดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มคนที่ไปถ่ายภาพในลักษณะอนาจารในสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ด้วย

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 นายจิตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ ในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลสถานที่ท่องเที่ยวพาสาน ได้มีการมอบหมายให้นางวรรณ ควงสมบัติ รองปลัดเทศบาล ให้นำหลักฐานชุดภาพของหญิงสาวที่ถ่ายภาพในลักษณะอนาจารดังกล่าว เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.นุกูล สูงชมเชย ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อให้ออกหมายเรียกหญิงสาวที่ปรากฏอยู่ในรูป มาชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้ขอโทษสังคมและชาวนครสวรรค์ ที่ทำภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหาย โดยยังไม่มีการแจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นายอานนท์ อายุ 26 ปี ผู้ที่โพสต์ภาพหญิงสาวสักลายก้นในลักษณะอนาจารลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก สมาคมรักรอยสักแห่งประเทศไทย พร้อมแฟนสาว คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี หญิงที่ปรากฏอยู่ในภาพ ได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.บางม่วง เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยนายอานนท์ ได้กล่าวว่า วันที่ถ่ายรูป คือวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พาแฟนสาวซ้อนท้ายจากบ้านพักใน อ.เมือง จ.อุทัยธานี มาท่องเที่ยวยังเมืองนครสวรรค์ ซึ่งระหว่างทาง ก็พาแฟนสาวแวะถ่ายรูปโชว์รอยสักของแฟนสาวตามที่ต่างๆ หลายจุด จนกระทั่งมาถึงที่อาคารพาสารเป็นที่สุดท้าย แล้วหลังจากวันนั้น ตนก็นำรูปที่ถ่ายรอยสักแฟนนำไปโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก สมาคมรักรอยสักแห่งประเทศไทย จนทำให้กลายเป็นกระแสถูกต่อว่าดังกล่าว

“ผมและแฟนสาวต้องกราบขอโทษสังคม และชาวนครสวรรค์ทุกคนด้วย วันนั้น ผมคาดไม่ถึงว่าจะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในแหล่งท่องเที่ยวพาสาน อีกทั้ง ตอนที่ถ่ายรูปในขณะนั้น ผมก็ได้หาจุดที่ไม่มีคนอยู่แล้ว จึงไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาใดๆ ส่วนการที่ถ่ายรูปในลักษณะแบบนี้ ผมต้องบอกก่อนว่าผมและแฟนสาว ชื่นชอบและชื่มชมการสักลายตามเรือนร่างเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ประกอบกับ แฟนสาวเพิ่งไปสักลายที่ก้นมาจากร้านเพื่อนของผม และเมื่อมีโอกาสในวันว่าง จึงได้พาแฟนสาวออกไปหาที่ถ่ายรูปเพื่อโชว์รอยสักแล้วนำไปโพสต์อวดในเฟซบุ๊กกลุ่มที่ชื่นชอบการสักเหมือนกันเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสื่อให้ดูไปทางอนาจารหรือลามกแต่อย่างใด” นายอานนท์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม หลักจากที่นายอานนท์ และแฟนสาวได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว จึงได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอนาจารก่อนจะมีการเปรียบเทียบปรับไปคนละ 1,000 บาท จากนั้น ทั้งคู่จึงได้เดินทางไปทำพิธีเพื่อขอขมาต่อองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวพาสาน พร้อมกับรับปากว่าจะไม่ไปถ่ายรูปในลักษณะนี้ในสถานที่ใดอีก จึงทำให้ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ที่เป็นหน่วยงานดูแลแหล่งต้องเที่ยวพาสาน ได้ว่ากล่าวตักเตือนทั้งคู่อีกครั้งก่อนจะให้เดินทางกลับ โดยไม่มีการแจ้งความเอาผิดในข้อหาอื่นอีกแต่อย่างใด