โดยนายอุเทน หรือ คิม ไทยแลนด์ ใช้เวลาตอนเช้าของวันที่สามออกไปเดินชมบรรยากาศทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือทะเลสาบคืนดาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ก่อนไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจิตใจ
ก่อนกลับโรงแรมที่พัก นายอุเทนได้เดินผ่านไปยังบริเวณที่มีการจัดรายงานผลการประชุมที่อยู่ใกล้ทะเลสาบ เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ปรากฎว่ามีชาวเวียดนามที่มาออกกำลังกายและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพบเห็นพากันมาขอถ่ายรูป ทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยการประชุมซัมมิต ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้ามาขอตรวจสอบ ทั้งที่นายอุเทน หรือคิม ไทยแลนด์ ได้กระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับโรมแรม
โดยเจ้าหน้าที่เชิญตัวลงจากรถแท็กซี่และพาเดินไปยังกองบัญชาการตำรวจฮานอย ทำให้สื่อมวลชนจำนวนมากและช่างภาพสำนักข่าวต่างๆ เห็นเข้าพยายามถ่ายรูปนายอุเทน โดยตำรวจเวียดนามที่คุมตัวได้พยายามปิดกั้นไม่ให้บันทึกภาพ เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลและวัตถุประสงค์ของการมาปรากฎตัวบริเวณใกล้สถานที่จัดประชุม
ซึ่งนายอุเทน ถูกเจ้าหน้าที่สอบถามนานกว่า 2 ช.ม. จนเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงบันทึกปากคำเป็นภาษาเวียดนามแปลให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนายอุเทนเห็นว่าไม่มีอะไรเสียหาย จึงยอมลงนามเซ็นชื่อในบันทึกดังกล่าว ก่อนจะย้ายตัวส่งต่อไปยังสถานีตำรวจที่ตั้งของโรงแรมที่นายอุเทนพักอยู่ เพื่อเก็บกระเป๋าเดินทางและเชิญตัวให้เดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดเวลาที่จองตั๋วเครื่องบินไว้ในเวลา 15.30 น. วันที่ 27 ก.พ. โดยตำรวจเวียดนามได้เชิญตัวนายอุเทน และนักท่องเที่ยวชาวอยิปต์อีกรายหนึ่งขึ้นรถไปส่งมอบต่อตม.เวียดนาม และควบคุมตัวไว้จนกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่องถึงจะคืนหนังสือเดินทางให้