ซึ่งได้มีพิธีประดับยศไปเมื่อวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ทำหน้าที่ประดับยศ สร้างความแปลกใจให้กับใครหลายคนว่าทำไม บัวขาว ถึงได้เลื่อนยศทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา นักชกวัย 36 ปี นอกจากจะต้องขึ้นสังเวียนทำหน้าที่ในการเป็นนักกีฬาแล้ว ยังมีหน้าที่อีกอย่างนั่นก็คือการเป็นตัวแทนของกองทัพบกในการร่วมทำกิจกรรมกับหลายหน่วยงานทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านกีฬาให้กับเยาวชนชายแดนใต้ "สร้างองค์ความรู้และเสริมทักษะกีฬามวยไทยให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนใต้"
รวมถึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ เจ้าหน้าที่, ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการลงพื้นที่ไปเยื่ยมชมชุมชนที่ได้รับผลจากความรุนแรง นอกจากนี้ยังเดินทางไปร่วมปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชนต่างๆ ยามกองทัพบกจัดตั้งจุดบริการประชาชน ซึ่งถือว่าเจ้าตัวทำมาอย่างต่อเนื่อง
บัวขาว บัญชาเมฆ ได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นอกเหนือจากหน้าที่ของนักกีฬา ตนก็พร้อมที่จะนำความสามารถของตนเองไปก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม หลายคนอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องการร่วมทำกิจกรรมกับกองทัพบกตลอดที่ผ่านมา ตนทำงานแบบเงียบๆ เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติกับภารกิจทางการทหาร
สำหรับ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้เลื่อนฐานะจากนายทหารชั้นประทวนเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ยศร้อยตรี หลังกระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วว่ามีวุฒิการศึกษา และเงื่อนไขครบถ้วนตามที่กำหนด พร้อมกันนี้เจ้าตัวจะเลื่อนตำแหน่งจากรองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง (รอง ผบ.หมู่ มว.บร.ร้อย.บร.กบร.รร.กสร.ศสร.) ไปประจำแผนกศูนย์การกำลังสำรอง (ศสร.)