หนุ่มขับรถส่งของมอบตัวแล้ว หลังแอบถอนเงินเยียวยาโควิด-19 ของผู้ป่วยไตไป 3,000 บาท พร้อมคืนเงินให้
จากกรณีที่ นางสุทาทิพย์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง ว่ามีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่าปี ซึ่งเป็นญาติที่มาเฝ้าไข้พ่อตาในโรงพยาบาลนางรอง ได้กดถอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ของนายณรงค์ศักดิ์ พี่ชาย ที่วานไปช่วยกดเช็คยอดเงินให้ ขณะมานอนรักษาอาการป่วยโรคไตอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกันหายไป 3,000 บาท
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 เม.ย.) นายสมปอง อายุ 34 ปี หนุ่มพนักงานขับรถขนส่งสินค้าที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าเป็นคนกดเงินของนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ป่วยโรคไตไป ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง แล้ว
จากการสอบสวน นายสมปอง ตอนแรกยังปฏิเสธว่าไม่ได้ถอนเงินไป แค่ไปกดเช็คเงินตามที่ผู้เสียหายฝากให้เช็คเงินเท่านั้น แต่พอตำรวจเค้นสอบสุดท้ายก็ยอมรับสารภาพว่า ได้นำบัตรเอทีเอ็ม ของนายณรงค์ศักดิ์ ไปกดเช็คยอดเงินเยียวยาที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยที่ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลนางรอง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. จริง
พอเห็นว่ามีเงินในบัญชี 5,000 บาท จู่ๆ ก็เกิดความอยากได้จึงกดถอนเอา 3,000 บาท แต่ยังไม่ได้ใช้เงิน และพร้อมจะนำไปคืนให้กับผู้เสียหาย นายสมปอง ยังอ้างว่าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแค่เห็นแล้วเกิดความอยากได้เท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของทางธนาคารที่ตรวจสอบแล้ว เบื้องต้น ถูกแจ้ง 2 ข้อหา ลักทรัพย์และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ ผู้เสียหาย ซึ่งยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง ก็บอกว่า ดีใจที่นายสมปองยอมรับสารภาพ เพราะตอนแรกเห็นว่าปฏิเสธ ทั้งที่ก็มีหลักฐานว่ามีการถอนเงินออกไปจริง และหากนายสมปองนำเงินมาคืนให้ก็พร้อมยอมรับคืน และก็ให้อภัยไม่ติดใจเอาเรื่องอะไร
แต่ส่วนเรื่องคดีก็แล้วแต่ทางตำรวจ หลังจากนี้คงไม่กล้าฝากบัตรเอทีเอ็มให้ใครไปกดอีก และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับประชาชนทั่วไปด้วยว่า อย่าไว้ใจใครเพราะอาจจะเกิดปัญหาเหมือนกับตนเอง