จากกรณีชายอายุ 28 ปี อดีตอาสากู้ภัย อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ได้ล้มป่วยลงด้วยอาการโรคไตวาย ระยะที่ 5 จนต้องล้างไตวันละ 4 ครั้ง และไปหาหมอในทุกเดือน อีกทั้งยังมีอาการเหนื่อยหอบง่าย จนไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงดูแม่และครอบครัวได้ตามปกติ ต่อมามีการโพสต์ภาพและข้อความขอเงินบริจาค ได้เงินเป็นจำนวน 8 แสนบาท แต่ภายหลังพบว่า มีการนำเงินไปซื้อรถ 3 แสนกว่าบาท รวมทั้งไถ่ที่ ซื้ออุปกรณ์แต่งรถ และโทรศัพท์มือถือให้แฟนสาว จนถูกตั้งข้อสงสัยว่าใช้เงินผิดวัตถุประสงค์นั้น
ล่าสุด หนุ่มรายดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้นำเงินบริจาคไปซื้อรถยนต์จริง แต่เพื่อนำมาใช้ขับไปโรงพยาบาล และทำอาชีพเสริมบรรทุกผลไม้มาขาย เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว
หนุ่มผู้ป่วยโรคไตรายนี้ เปิดเผยต่อว่า หลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์ ก็ไม่ได้หนีหายไปไหน ได้เข้าไปชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นและตอบทุกข้อซักถามอย่างละเอียดแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเอาเงินไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้แฟนสาว ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะซื้อให้ตัวเอง เนื่องจากเครื่องเก่าพัง ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
“ผมยอมรับว่า นำเงินช่วยเหลือไปซื้อรถจริง เพราะรถจำเป็นต่อการดำรงชีวิต มอเตอร์ไซต์ผมไม่สามารถบรรทุกน้ำยาเป็นลังๆ ไปส่งตรวจได้ และบางครั้งก็ต้องเช่ารถ หรือบางครั้งไม่มีรถก็ต้องรอรถเป็นวัน เลยคิดว่า ควรต้องมีรถไว้ที่บ้านซักคัน เพื่อใช้ในเรื่องดีและมีประโยชน์ไม่ได้ใช้ในสิ่งที่ไร้สาระเลย”