วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องเลื่อนเปิดเทอมจากเดือนพฤษภาคม เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 พร้อมกันทั้งประเทศ โดยวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 นี้ จะเริ่มการถ่ายทอดสัญญาณ การเรียนออนไลน์ ผ่าน ช่องทีวีดิจิทัล 17
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมของเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง ในพื้นที่ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังจากทราบว่า เด็กนักเรียนและผู้ปกครอง บางครอบครัวยังไม่มีความพร้อมในด้านอุปกรณ์การเรียนการสอน
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และได้พบกับ นางชโลธร เอมละออ อายุ 32 ปี แม่ลูกสอง ซึ่งมีลูกเรียนอยู่ที่โรงเรียนของรัฐบาลใกล้บ้าน ลูกคนโต ชื่อ ด.ญ.หนูนา (นามสมมุติ) ปีนี้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ ด.ช. เอ (นามสมมุติ) เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งสองเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน จากการสอบถาม นางชโลธร ทราบว่า ตนเองได้รับแฟ้มของลูกจากทางโรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าลูกๆ จะต้องเรียนอย่างไร เมื่อถามถึงความพร้อมด้านอุปกรณ์ทราบว่า ทางบ้านมีเครื่องรับโทรทัศน์รุ่นเก่าเพียงเครื่องเดียว แต่มีลูกสองคน อยู่กันคนละชั้นเรียน คงต้องให้ลูกๆ ผลัดเปลี่ยนกันดู คงไม่สามารถดูได้ครบทุกวิชา
ส่วนโทรศัพท์ ทั้งครอบครัวมีเพียงเครื่องเดียว ไว้สำหรับใช้โทรออกและรับสายเท่านั้น ไม่สามารถติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ได้ โดนส่วนตัวตนอยากให้ลูกไปเรียนที่โรงเรียน เพราะตัวเองก็ประกอบอาชีพรับจ้าง หาเช้ากินค่ำ ต้องออกจากบ้านแต่เช้า บางวันก็กลับดึก ไม่มีเวลาดูแลลูกๆ หากต้องเรียนอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ยังเห็นว่า ถ้าเรียนทางโทรทัศน์เด็กอาจจะเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่เมื่อไม่ได้เจอกับครูต่อหน้า ก็ไม่สามารถที่จะไปถามหรือขอให้อธิบายเพิ่มเติมได้
แต่ตนก็เข้าใจว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์โรคระบาดขึ้นมา ก็คงมีความจำเป็นต้องทำเท่าที่ทำได้ พยายามสอนลูกตามที่เราเข้าใจ สิ่งไหนที่เราไม่เข้าใจ ก็จะถามเพื่อนบ้านที่เขามีความรู้ดีกว่า เพราะว่าตนก็ไม่ได้มีความรู้มากมาย พยายามช่วยสอนลูกจนกว่าโรงเรียนจะเปิด เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาลถึงแม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน และมีสภาพที่ไม่พร้อมทีจะให้ลูกเรียนแบบออนไลน์
แม้กระทั่งบ้านที่อยู่อาศัย ก็เป็นบ้านมุงสังกะสี ไม่มั่นคงแข็งแรงพอที่จะป้องกันลมหรือฝนได้ จากสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คงไม่มีปัญญาจะปรับปรุงบ้านอย่างแน่นอน ได้แต่หวังว่า สักวันจะมีโชคดี หรือมีคนช่วยเหลือคงจะได้บ้านที่มันคงกว่าที่เป็นอยู่