นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ภายหลังเปิดให้แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราวและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ เยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ล่าสุด ณ เวลา 06.00 น.วันนี้ (29 มี.ค.) มีผู้ลงทะเบียนผ่านแล้ว 9.68 ล้านคน ซึ่งในช่วง 5 นาทีแรกของการลงทะเบียนเมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ มีผู้เข้ามาลงทะเบียนมากถึง 20 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากและเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบจำเป็นต้องปิดระบบการลงทะเบียนชั่วคราว และหลังจากเปิดให้ลงทะเบียนใหม่เมื่อเวลา 20.00 น. ระบบมีความเสถียรมากขึ้น ไหลลื่นไม่สะดุด
ทางด้าน นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึง กรณีที่เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น เกิดปัญหาเนื่องจากก่อนเปิดระบบมีประชาชนสนใจรอลงทะเบียนที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com กว่า 2 ล้านคน และในช่วง 5 นาทีแรกของการลงทะเบียน มีผู้เข้ามาลงทะเบียนมากถึง 20 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากและเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ที่ 3.48 ล้านคนต่อนาที
โดยทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบ จำเป็นต้องปิดระบบการลงทะเบียนชั่วคราว และหลังจากนั้นไม่นาน ระบบการปฏิบัติงานได้เข้าสู่ภาวะปกติ และมีจำนวนผู้ที่สามารถลงทะเบียนผ่านเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ (29 มี.ค.63) เวลา 06.00 น. มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว จำนวน 9.6 ล้านคน และยังเปิดให้ลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นระบบจะแจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิ์ตามมาตรการ ตอบกลับมายังผู้ลงทะเบียนผ่านทางข้อความ SMS เมื่อลงทะเบียนแล้ว ระบบพร้อมจ่ายเงินเยียวยาเข้าบัญชีเร็วสุดภายใน 7 วันทำการ โดยจะโอนเงินให้บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน ผ่านบัญชีธนาคารที่มีชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีตรงกับชื่อและนามสกุลนำมาลงทะเบียน
พร้อมเน้นย้ำว่า การขอรับสิทธิ์ตามมาตรการนี้ ไม่ใช่วิธีมาก่อนได้ก่อน ประชาชนทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากไวรัสโควิด-19 และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลครบทุกคน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวและรักษาสิทธิ์ของตนเอง โดยทางกระทรวงการคลังขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมจะนำปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไขกับระบบปฏิบัติการของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับนโยบายอื่นของกระทรวงเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนต่อไป