เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (12 มิถุนายน 2563) พ.ต.อ.ถาวร รวมกิ่ง ผกก.สภ.ไพศาลี ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนในสังกัดเดียวกันว่า มีเหตุฆาตรกรรมเกิดขึ้นภายในบ้าน ใน ต.ไพศาลี อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ไพศาลี แพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยไพศาลี
บ้านที่เกิดเหตุ พบว่า หน้าบ้านมีการเปิดเป็นร้านขายของโชห่วย โดยที่ภายในบ้านพบศพนางพยับ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตในสภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่บริเวณชายโครง 1 นัด โดยมีเพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มือปืนผู้ก่อเหตุ มีลักษณะเป็นชายวัยรุ่น ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสีเขียวหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนบ้านช่องกะพี้ พื้นที่ ต.ไพศาลี จึงได้กระจายกำลังในการไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็สามารถจับกุมตัวมือปืนผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณริมถนนบ้านช่องกะพี้ หมู่ 6 ทราบชื่อคนร้าย คือ นายธนภัทร์ หรือปุ้ย นันนิยงค์ อายุ 36 ปี โดยสามารถจับกุมตัวได้พร้อมกับยึดอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุนเบอร์ 12 อยู่ในรังเพลิง 1 นัด และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่หลบหนี
จากการสอบสวนสอบสวนในเบื้องต้น นายธนภัทร์ มือปืนให้การว่า เนื่องจากโกรธแค้นผู้ตายที่กีดขวางทางรัก ระหว่างตนกับลูกสาวของผู้ตาย ที่คบหาดูใจกันมานานนับ 10 ปี แต่ภายหลังเมื่อ 2-3 ปีก่อน ตนและลูกสาวของผู้ตายได้เลิกลากันไป เนื่องจากผู้ตายได้สั่งกำชับให้ลูกสาวเลิกกับตนอย่างเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า ตนเป็นคนไม่มีอนาคต เพราะไม่มีงานทำที่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งที่ผ่านมา ตนพยายามหาทางพิสูจน์ตนเองให้ทางครอบครัวของผู้ตายเห็นว่าตนก็มีอนาคต พร้อมกับพยายามตามง้อขอคืนดี แต่ก็ถูกผู้ตายกีดกันมาตลอด จึงทำให้เกิดความโกรธฝังใจที่คอยมาทำลายเส้นทางความรักไม่ให้ตนได้สำหวัง จึงได้ตัดสินใจนำอาวุธปืนไปก่อเหตุดังกล่าว
“ผมครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน จนกระทั่งถึงเช้า ก็ทราบว่า ผู้ตายอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง ผมจึงตัดสินใจนำปืนลูกซองยาวออกมา แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปหาผู้ตายที่บ้าน จากนั้น เมื่อเจอตัว ผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ผมรีบเดินปรี่เข้าไปหาผู้ตาย แล้วชักปืนลูกซองยาวที่พกมาด้วย ออกมายิงจนผู้ตายล้มทันทีก่อนจะรีบขับขี่รถหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.