ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเหล่าหวู่ แซ่ซือ สัญชาติเมียนมา เป็นจำเลย ในความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ, ความผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, ความผิด พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว กรณีจำเลย เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่มีใบอนุญาต และได้ใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาป่าเชียงดาว ได้รับความเสียหาย 10 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติจำนวน 439,668 บาท เหตุเกิดที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยจำเลยให้การรับสารภาพ
โดยศาลพิจารณาเเล้ว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายเสียหายเป็นเงินจำนวน 439,668 บาท แก่กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เนื่องจากการกระทำของจำเลยเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงสุขภาพอนามัยของคนในสังคมโดยรวม นับเป็นเรื่องร้ายแรงจึงไม่มีเหตุรอการลงโทษให้จำเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความผิดฐานเผาป่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ