ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ร่วมกับชาวบ้านที่ชำนาญป่า เดินเท้าเข้าไปค้นหาบนเทือกเขาทันทีตั้งแต่เช้าวันที่ 15 พ.ค. โดยมีจุดหมายปลายทางคือที่ป่าตะคร้อ ซึ่งชาวบ้านที่หลงป่าพากันเดินทางไป โดยชาวบ้านที่หลงป่ามี นายวิโรจน์ ชัยชนะ อายุ 45 ปี นางแดง ชัยชนะ อายุ 43 ปี นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ 45 ปี และ ด.ช.ปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี มีสุนัขไปด้วย 3 ตัว

ทั้งนี้ ภายหลังนายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ร่วมกับ พ.อ.ธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ ผอ.กกร.ทภ.3 ร่วมประชุมกับ นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผอ.สำนักบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้ที่ 11 นายวิทูร เดชประมวลพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ฝ่ายปกครองอำเภอวังทอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทีมกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน กู้ภัยบูรพา หลังจากมีการนำเฮลิคอปเตอร์ ฮท 72 ไปบินสำรวจป่าเหนือถ้ำขุนอภัย ซึ่งเป็นจุดใกล้กับป่าตะคร้อที่ชาวบ้านทั้ง 4 คนเดินทางไป และทีมค้นหาพบรอยรองเท้าแตะนันยางที่คาดว่าจะเป็นรอยรองเท้าของชาวบ้าน รวมทั้งรอยอุ้งเท้าสุนัข รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ได้บินรอบป่าบริเวณลำธารปอยน้อย ลำธารปอยใหญ่ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 จะเดินทางมาถึงและร่วมค้นหาทางอากาศอีก 1 ลำ และล่าสุดเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้บินมาสนับสนุนการค้นหาอีก 1 ลำ

นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้า ได้จัดชุดค้นหาจำนวน 10 ชุด ชุด ละ 14-15 นาย เริ่มตั้งแต่เช้า แต่ยังไม่พบผู้หลงป่า ทีมค้นหาจะต้องพักแรมในป่า ซึ่งมีการเตรียมเสบียงไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำดื่มที่ติดตัวกันไป จึงต้องลำเลียงทางเฮลิคอปเตอร์นำไปหย่อนลง โดยใช้เชือกมัดแล้วโรยลงไปด้านล่าง และส่งทีมค้นหาทั้งทหารจากกองพลพัฒนาที่ 3 กองพลรบพิเศษที่ 4 พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เข้าไปพักค้างคืนในป่า โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 3 ลำ ทยอยนำไปส่งที่จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวบนเขา ก่อนเริ่มค้นหาตั้งแต่เช้า ตนเชื่อว่าทั้ง 4 คน ยังปลอดภัยดี หากพบชาวบ้านที่หลงป่าจะให้ทีมแพทย์เข้าไปตรวจสุขภาพร่างกายในเบื้องต้น หากมีอาการเล็กน้อยก็จะนำส่ง รพ.วังทอง หากมีอาการน่าเป็นห่วงก็จะนำส่งไปที่ รพ.พุทธชินราช โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ในการเดินทาง

ขณะที่ นางนาง น้อยอินทร์ แม่ของ ด.ช.ปัญญา เปิดเผยว่า มีหมอดูที่พวกตนโทรศัพท์ไปสอบถามถึงบุตรชายและญาติรวม 4 คนที่หลงป่า ตั้งแต่วันแรกที่ค้นหาไม่เจอ ได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่า ทั้ง 4 คนยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องด้วยมีคนทำผิดป่า เจ้าป่าเจ้าเขาจึงบังตาทั้ง 4 คน ไม่ให้เห็นทางกลับบ้าน และบังตาทีมค้นหาอยู่ แม้จะเดินเฉียดกันไปมา โดยหมอดูบอกว่าบุตรชายตนกับญาติอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ ข้างถ้ำขุนอภัย ญาติคนใดคนหนึ่งต้องไปจุดธูปบอกกล่าวขอขมาที่จุดดังกล่าว และถ้าเจอทั้ง 4 คนแล้ว ต้องเลี้ยงอาหารคาวหวานเจ้าป่าเจ้าเขาให้ด้วย ทำให้พวกตนมีความหวังมากขึ้น และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้มาช่วยกันค้นหาบุตรชายตนและญาติในครั้งนี้อย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 พ.ค. นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปรับฟังและร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่โรงเรียนบ้านป่ามะกรูด พร้อมกำชับเรื่องความปลอดภัยของทีมค้นหาเป็นสำคัญ สำหรับการค้นหาจะเริ่มตั้งแต่เวลาเช้าตรู่ของวันที่ 17 พ.ค. โดยกำลังของทหารกองทัพภาค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุ่งแสลงหลวง เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน กู้ภัยบูรพา และชาวบ้านที่ชำนาญป่ากว่า 100 นายที่ขึ้นไปนอนพักค้างแรมในป่าบนเทือกเขา โดยจะเน้นพิกัดรอบถ้ำขุนอภัยในรัศมี 5 กม. พร้อมให้เฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนตามแนวร่องน้ำที่คาดว่าชาวบ้านทั้ง 4 คนจะพักค้างแรมอยู่อีกครั้ง แม้ว่าจะมีการสำรวจทางภาคพื้นดินไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ตาม