หลังจากมีการออกคำสั่งจาก "สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย" (สคม.) เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ห้ามมิให้มีการจัดการแข่งขันชกมวยไม่ว่าระบบปิดหรือเปิดก็ตามทั่วประเทศ เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และมีคำสั่งล็อคดาวน์จากภาครัฐตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อมา จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2 เดือน กับอีก 10 วันแล้ว นั่นหมายถึงอุตสาหกรรมธุรกิจการจัดมวยชกต้องหยุดชะงักลงทั้งหมด เมื่อไม่มีการจัดแข่งขันอาชีพที่เดือดร้อนก่อนใครเพื่อนนั่นคือ นักมวย ที่มีรายชื่อจดทะเบียนเกือบ 3,000 คน ที่มีอาชีพหารายได้เลี้ยงชีพครอบครัวต้องเดือดร้อนกระทบไปด้วย ส่วนค่ายมวย หัวหน้าค่าย ผู้ฝึกสอน กรรมการ โปรโมเตอร์สนามมวย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงมีการประสานจากสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย โดย นายกฯ สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ได้ประสานโดยตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะประธานบอร์ดมวย นำงบเบื้องต้น 25.6 ล้าน ใช้เยียวยา นักมวยและผู้ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์แล้ว
หลังมวยถูกห้ามชกเพราะโควิด คนมวยก็เรียกร้องให้มีการจัดเปิดสนามมวยให้ชกคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว แต่เพราะสนามมวยลุมพินี ถูกกระสุนตกเป็นจำเลยสังคมว่าเป็นแหล่งเผยแพร่โรค ครั้งที่ผ่านมาร เป็นเหตุให้ "ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019" (ศบค.) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้จัดประเภท สถานที่ หรือกิจกรรม กลุ่มเสี่ยง ออกเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 สีขาว เป็นสถานประกอบการที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต มีขนาดเล็ก ตั้งในที่โล่งไม่เปิดแอร์ เช่น ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดนัดถูกปลดล็อกผ่อนปรนก่อนเพื่อน ตามมาด้วยกลุ่มที่ 2 สีเขียว เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก มีแอร์หรือไม่มี แต่สามารถควบคุมง่าย รวมถึงสวนสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย กลุ่มที่ 3 สีเหลือ เป็นสถานบริการในร่มติดแอร์มีคนใช้บริการไม่แออัด เช่น โรงยิม สปา นวดแผนโบราณ ส่วน กลุ่มที่ 4 สีแดง เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีคนเข้าไปแออัด มีความเสี่ยงสูงสัมผัสสูง เช่น สนามมวย สถานบันเทิง ผับ บาร์ ตรงนี้ ทาง ศบค. จะมีการผ่อนปรนเป็น 4 ระยะ โดยทบทวนทุก 15 วัน ตอนนี้ คลายล็อกไปแล้ว คือกลุ่มที่ 1 และ 2 ส่วนกลุ่มที่ 3 ประเมินภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม และผ่อนปรนในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ส่วนสนามมวยตามโผคือ 15 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ นายสรศักดิ์ แซ่ตั้ง หรือ เสี่ยตี๋ ทีเด็ด 99 โปรโมเตอร์และเจ้าของค่ายมวยรวบรวมคนมวยรวม 20 คน ยื่นหนังสือต่อ นายวิบูณ จำปาเงิน ผอ.สำนักงานกีฬามวย ที่อาคาร กกท. โดยมีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญขอให้พิจารณาให้ผ่อนปรนการห้ามการชกมวยเพื่อให้กลับมาโดยเร็ว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี แต่ก่อนหน้านั้น นายกฯ สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ได้ประสานงานไปที่ สคม. ในเรื่องนี้แล้ว และ สคม. ได้จัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการแพทย์ ซึ่งแต่งตั้งโดยบอร์ดมวยสดๆ ร้อนๆ ที่อาคาร กกท. ในวันที่ 22 พฤษภาคม โดยมี นายมารุต จิรเศรษฐสิริ ซึ่งท่านรับตำแหน่งอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุขด้วย และเป็นทีมงานของทาง ศบค. ในการประชุมปลดล็อกกลุ่มเสี่ยงทั้ง 4 กลุ่ม ในการประชุมในวันนั้น มีการเสนอแนวทางความคิดเพื่อให้มวยกลับมาชกได้ตรามกำหนดเวลา ผมขอสรุปผลการประชุมในวันนั้นดังนี้
กำหนดให้การชกมวยที่จะกลับมาชกได้ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1.ระยะสั้น เป็นระบบปิดไม่มีคนดู คงต้องเริ่มจากการจัดของโปรโมเตอร์ที่มีการถ่ายทอดทางทีวี เพราะสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากพึ่งสปอนเซอร์เป็นหลัก มากกว่าคนตีตั๋วเข้าชมในสนาม และมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาชกในระยะเวลาของกลุ่มที่ 4 คือหลังวันที่ 15 มิ.ย. ซึ่งก่อนถึงเวลานั้น เมื่อกลุ่มที่ 3 สีเหลือ ปลดล็อก ในวันที่ 1 มิ.ย. อาจนำแผนสำรองการชกนำเสนอช่วงนี้ได้
2. ระยะกลาง เป็นการจัดแบบระบบเปิด ที่จำกัดคนดู และมาตรการที่เข้มข้นขึ้นคาดว่าน่าจะกลับมาได้ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้โดยจะต้องดูผลจากการจัดระบบปิดมวยตู้ผ่านไปด้วยดีก่อน เพราะการจัดถ่ายทอดจะมีเรื่องของการรวมกลุ่มเพื่อเล่นการพนันมวยตู้นอกสนาม
3. ระยะยาว คือการเปิดแบบการชกปกติที่เคยผ่านมา อันนี้คาดการณ์ว่าน่าจะยาวถึงสิ้นปี สิ่งหนึ่งที่คนมวยจะต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำคือ ร่วมกันออกแบบแผนสำรองการชกเอาเฉพาะมวยจอตู้นี่ก่อนครับ ที่ประชุมกำหนดมาตรการหลักในเรื่องการป้องกันหลัก 5 อย่างคือ
1. สวมหน้ากากอนามัย 2. วัดอุณหภูมิและใช้เจลล้างมือบ่อยๆ 3. เว้นระยะห่างทางสังคม 1 เมตร 4. หมั่นทำความสะอาดสถานที่ 5. จำกัดคนเข้าชม ส่วนแผนสำรองอื่นๆ การชกมวยตู้ เช่น ให้นักมวยเดินทางเข้ามากักตัวที่ค่ายก่อน 20 วัน ไม่ต้องตรวจโควิดเพราะค่าใช้จ่ายสูงถึง 2,500 บาท ต่อคน แต่ให้แพทย์วัดอุณหภูมิในวันชกด้วย และในการจัดแต่ละครั้งไม่ให้คนเกิน 50 คน ใช้หลักเดียวกับกองถ่ายละคร ภาพยนต์ ดังนั้น มวยตู้มี 4 คู่ อาจให้เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเข้าไปได้เฉพาะคู่ที่ 1 ก่อน เมื่อจบการแข่งขันก็ให้ออกมา แล้วทีมงานคู่ที่ 2 จึงเข้าไป และคาดว่าจะมีการจัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ กกท. โดยจะเชิญนายสนาม และโปรโมเตอร์ ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมเพื่อนำเสนอมาตรการแผนสำรองการชก มวยทั้ง 3 ระยะ แต่จะนำส่งแผนที่ 1 คือ มวยตู้ชกก่อน ผมคาดว่าน่าจะรอพ้นระยะสีแดง วันที่ 15 มิ.ย. ไปก่อน คาดว่าอย่างเร็วน่าจะเป็นปลายเดือน มิ.ย.นี้ รอกันมา 70 วัน แล้ว อดทนนิดครับ คนมวยไหว้ครูรออยู่แล้ว