นอกจากจะต้องแยกกันซ้อมที่บ้านแล้ว ตนเองยังต้องดูคลิปการชกของนักชกในรุ่นเวลเตอร์เวต 69 กิโลกรัมหลายๆคนอีกด้วย เพื่อเป็นการศึกษาเชิงชกของนักมวยรุ่นนี้
กำปั้นชาวบุรีรัมย์ได้กล่าวว่า นับตั้งแต่ไอบาได้ทำการเปลี่ยนเวตการชกใหม่เมื่อปีที่แล้ว โดยได้ยกเลิกรุ่นไลท์เวลเตอร์เวต 64 กิโลกรัม ซึ่งเป็นรุ่นที่ตนเองถนัดและชกมาโดยตลอด จึงต้องขยับขึ้นไปชกในรุ่น 69 กิโลกรัมแทน
ปรากฏว่าคู่ชกในรุ่นนี้ส่วนใหญ่ มีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าตนเองด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงทำให้เจ้าตัว มีปัญหาในการปรับตัว จนยังไม่ประสบความสำเร็จกับการชกในรุ่นนี้แต่อย่างใด โดยเฉพาะรายการล่าสุด ในศึกคัดเลือกโอลิมปิกโซนเอเชีย-โอเชียเนีย ก็ทำผลงานได้ไม่ดีพอที่จะคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 อย่างน่าเสียดาย แม้ในซีเกมส์ครั้งที่ 30 เมื่อปลายปีที่แล้ว จะคว้าเหรียญทองก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จากการที่รายการคัดเลือกโอลิมปิก 2020 เลกที่ 2 ถูกเลื่อนการแข่งขันแบบไม่มีกำหนด แถมโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถูกเลื่อนไปแข่งขันในปีหน้าอีกด้วย เนื่องผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จึงทำให้เจ้าตัวมีเวลามากพอ ในการศึกษาเชิงชกของนักมวยในรุ่น 69 กิโลกรัมหลายๆ ซึ่งจะช่วยให้ปรับตัวชกในรุ่นนี้ได้ดีขึ้น
จากการศึกษาเชิงของคู่ชกในรุ่นนี้หลายๆคน วุฒิชัย ได้ยอมรับว่า คู่ชกในรุ่นนี้น่ากลัวหลายคน เพราะนอกจากจะมีรูปร่างสูงยาวแล้ว ยังมีความไวปราดเปรียว และออกหมัดได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ดังนั้นในช่วงนี้ ตัวเองจึงต้องซ้อมให้หนัก เพื่อปรับสเต็ปขาให้เร็วขึ้น และออกหมัดให้ไวขึ้น ในการที่จะสู้กับนักชกชั้นนำหลายๆคนในรุ่นนี้ได้
สำหรับ วุฒิชัย มาสุข ถือเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน จากผลงานการคว้าเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2015 ที่ประเทศกาตาร์, เหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย 2015 ที่ประเทศไทย, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2014 และคว้าเหรียญทองซีเกมส์อีก 4 ครั้ง รวมไปถึงการเคยคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2016 ณ นครริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล