"เอ็กโซดัส" ... แปลว่าการอพยพ ชาวไทยส่วนใหญ่อาจไม่รู้จักความหมายจริงๆ ของภาษาอังกฤษคำนี้มากนัก เพราะต้นกำเนิดของการ อพยพ ของคำว่า เอ็กโซดัส ปรากฎขึ้นในคัมภีร์ไบเบิลฉบับดั้งเดิมและใช้บอกเล่าถึงเหตุการณ์การอพยพของชาวอิสราเอล ที่ต้องตกเป็นทาสในอียิปต์ตั้งแต่ครั้งโบราณนานมา
คำนี้จึงเป็นคำที่มีความหมายต่อผู้เคารพและนับถือพระเจ้าเป็นอย่างมาก การอพยพแบบ เอ็กโซดัส ไม่ใช่การหนีแบบหัวซุกหัวซุนและไร้แบบแผน แต่มันคือการหนีสิ่งที่เลวร้ายไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และเรื่องนี้ ไมค์ ไทสัน มนุษย์ที่หมัดหนักและแกร็งแกร่งที่สุดในโลกคือคนที่เข้าใจความหมายของมันอย่างถ่องแท้ที่สุดคนหนึ่ง ...
ผู้ชายน่าอิจฉา
หนึ่งในเหตุผลที่ ไมค์ ไทสัน คือนักมวยที่หลายคนมองว่า หากอยู่ในช่วงที่พีกที่สุด "ไม่มีชายคนใดในโลกสามารถคว่ำเขาลงได้" คงหนีไม่พ้นเรื่องที่เกิดขึ้นในวัยเด็กอย่างแน่นอน
Photo : www.reddit.com
ไทสัน ไม่รู้จักว่าครอบครัวคืออะไร พ่อหนีไปตั้งแต่วันที่แม่ตั้งท้อง ขณะที่แม่ก็ยังวัยรุ่นและเสพยาจนไม่พร้อมที่จะมีลูก การถือกำเนิดของ ไทสัน นับว่าเป็นคำจัดกัดความของ "บาปบริสุทธิ์" ได้เป็นอย่างดี ชีวิตแบบเด็กสลัม 100% หันหลังแลหน้าไม่มีใครสนว่าเขาจะอยู่หรือตาย การเอาชีวิตรอดแบบวันต่อวันบังคับให้เขาต้องทำผิดกฎหมาย ดังนั้นประวัติด้านอาชญากรรมของเขาจึงยาวเป็นหางว่าว
ชีวิตนักเลงสอนให้สู้ และการสู้แบบแพ้มีสิทธิ์ตายทำให้ประสบการณ์นี้หล่อหลอมไทสัน จนกระทั่งได้เจอกับ กัส ดีอาร์มาโต้ ครูมวยที่เป็นเหมือนพ่อและให้ชีวิตใหม่กับเขา กัส ดึงเอาความก้าวร้าวและพรสวรรค์ของ ไทสัน ออกมาใช้ให้ถูกทาง พลังหมัดของเขาจะมีความหมายถ้าไม่ได้เอามาใช้ข้างถนนและเสี่ยงตายไปวันๆ ดังนั้นนับตั้งแต่ได้มาอยู่กับ กัส ไทสัน จึงขยับชื่อชั้นตัวเองจนกลายเป็นโคตรมวยภายในระยะเวลาไม่กี่ปี จนกระทั่งทั่วโลกต่างขนานนามเขาว่า "ไอร่อน ไมค์" หรือชายที่แกร่งดังเหล็กกล้า
ในช่วงที่ชีวิตพุ่งถึงขีดสุด ไทสัน มีทรัพย์สินกว่า 300 ล้านดอลล่าร์ เหนือไปกว่านั้นคือเขากลายเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม ว่ากันง่ายคือชีวิตพลิกจากนรกขึ้นสู่สวรรค์จากที่เคยโดนเรียกว่า "ไอ้เวรไมค์"แห่งสลัมตอนนี้เขากลายเป็น "มิสเตอร์ไทสัน" แห่ง เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Photo : www.telegraph.co.uk
ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ประสบความสำเร็จจะมาซึ่งหลายสิ่งที่ท้าทาย ไทสัน สามารถทำอะไรก็ได้เพราะไม่ได้ขอตังค์ใคร หามาด้วยตัวเองทำให้ตัวกูภูมิใจ มีวีรกรรมของเขามากมาย หลายสิ่งหลายอย่างดูห่ามราวกับเป็นชีวิตในฝันของลูกผู้ชายหลายคน ทั้งการถูกเลือกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางกีฬายิ่งกว่า ไมเคิล จอร์แดน, ขึ้น ฮอล ออฟ เฟม ของสมาคมมวยปล้ำ WWE รวมถึงการเลี้ยงเสือเบงกอล 3 ตัวเป็นสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตามบนความเท่แบบเถื่อนๆ ไทสัน ทำอีกหลายสิ่งที่โดยปกติแล้วลูกผู้ชายตัวจริงไม่นิยมจะทำกัน ...
การมีชื่อเสียงไม่ได้แปลว่าจะน่าเคารพเสมอไป ตอนอายุ 16 ปี ไทสัน เคยลวนลามลูกสาว เท็ดดี้ แอตลาส อดีตโค้ชของเขาซึ่งทำให้ แอตลาส ต้องเอาปืน .38 จ่อที่หัวของ ไอร่อน ไมค์ เพื่อบอกให้รู้ว่าบางสิ่งไม่สมควรล้ำเส้น รวมถึงเขายังต้องคดีข่มขืนนางงามผิวสีในปี 1992 อีกด้วย
แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไทสัน เป็นที่ต้องการของเหล่าสาวฮ็อตเสมอ แม้หลายคนจะขัดขืนและทำให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่สมยอมกับการได้เป็นคู่ขาของ ไมค์ ไทสัน นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขาเข้าใจผิดว่าการประพฤติตัวโดยไม่รู้จักหักห้ามใจและคิดให้ดีก่อนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับคนดังอย่างเขา และคนอย่างไทสัน ก็เป็นชายผู้เสพติดความรักเสียด้วย ... "ผมจะอึ๊บคุณ จนกว่าคุณจะรักผม" วลีเด็ดจากปาก ไทสัน บ่งบอกตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี
Photo : fightstate.com
มีผู้หญิงทั้งหมด 8 คนที่ ไทสัน คบหาอย่างออกหน้าออกตา คิมเบอรี่ สการ์โบโรห์, นาโอมิ แคมป์เบล, โรบิน กิฟเว่นส์, นาตาเลีย เฟียร์ส, โซล โซชิตล์, ไอส์ลีย์น โฮแกน วอลเลซ และ ลาดิญ่า สไปเซอร์ โดยมี 3 คน ที่ได้แต่งงานกับเขานั่นคือ โรบิน กิฟเว่นส์, โมนิก้า เทอร์เนอร์ และ ลาคิญ่า "กีกี้" สไปเซอร์ ส่วนที่คบแบบขำๆ ยังมีอีกเพียบเกินจะนับได้
ใครจะด่าจะว่าเขาอย่างไรก็ได้ แต่ความจริงความรักไม่ใช่เรื่องผิด และมันเป็นเรื่องของคนสองคน ทว่าหากเกิด "พลาด" มีคนที่ 3 ขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจล่ะ? คนที่ไม่สามารถหยุดใจไว้กับใครเพียงคนเดียวและเสพความสุขแทนอ็อกซิเจนอย่าง ไทสัน จะทำอย่างไร?
เพราะไม่มีใครรัก...จึงไม่รู้จะรักใคร
ว่ากันว่าผู้ชายทุกคนจะกลายเป็นซูเปอร์แมนและเปลี่ยนเป็นคนใหม่ในวันที่เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว และ ไทสัน ที่มีลูกตามสายเลือดถึง 7 คน ต้องใช้เวลาปรับตัวกับการเป็นพ่อนานพอดู เพราะความสนุกแบบสุดเหวี่ยงนั้นทำให้เขาอาจจะมีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบในช่วงที่ดวงตายังไม่มองเห็นธรรม
Photo : blog.sina.com.cn
ลูกชายคนแรกของไทสันมีชื่อว่า ดิ อามาโต้ ตามชื่อของ กัส ดิอามาโต้ พ่อคนที่ 2 ของเขา ลืมตาดูโลกขึ้นมาในปี 1999 กับภรรยาคนแรก เขาเกิดในช่วงที่ ไทสัน โด่งดังมีชื่อเสียง นั่นเหมือนจะเป็นช่วงเวลาทีดี ทว่าแท้จริงแล้วมันคือความโชคร้าย แม้ไทสัน จะตั้งชื่อนี้ให้กับเขาเอง ดิ อามาโต้ ไทสัน ก็ต้องเติบโตมาพร้อมกับแผลในใจ เพราะกว่า ไทสัน จะยอมรับเขาเป็นลูกได้นั้นต้องผ่านการตรวจ DNA ให้แน่ชัดว่าจริงๆ แล้ว ดิ อามาโต้ คือลูกใครกันแน่? นอกจากนี้ นาตาเลีย เฟียร์ส ภรรยาคนแรกซึ่งไม่ได้แต่งงานกัน ยังฟ้องเอาเงินและค่าเลี้ยงดูอีก 12 ล้านเหรียญจาก ไทสัน อีกด้วย
ร้ายที่สุดคือหลังผลการตรวจเลือดมีข่าวว่าแท้จริงแล้ว ไทสัน ไม่ได้เป็นพ่อของ ดิ อามาโต้ อีกต่างหาก ดังนั้น เด็กน้อยคนนี้จึงเกิดมาในภาวะที่น่าสงสงสารที่สุด และตัวของ ไทสัน เองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเด็กที่ว่าเป็นลูกชายคนแรกมากนัก เพราะการไม่กินเส้นและผิดใจกันอย่างแรงกับ นาตาเลีย ทำให้เขาทำได้แค่ส่งค่าเลี้ยงดูให้เท่านั้น … ไทสัน กำลังเอาตัวเองตอนเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองคือใครยัดเยียดให้กับ ดิ อามาโต้ เด็กชายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนนี้
ในช่วงทีมีชื่อเสียงและเงินทอง แปลกที่ ไทสัน ไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตเด็กๆ ได้ดีมากนัก หนำซ้ำเขายังต้องบินไปมาเพื่อขึ้นชกและทำธุรกิจ เหนือสิ่งอื่นใดคือขึ้นโรงขึ้นศาลจากปัญหาอาชญากรรมต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดที่เป็นปัญหาใหญ่ของเขาทำให้ เรย์น่า ไทสัน, ดิ อามาโต้ ไทสัน, มิคกี้ ไทสัน และ อาเมียร์ ไทสัน ลูก 4 คนแรกจาก 7 คน คือคนที่ได้เห็นเงินค่าเลี้ยงดูมากกว่าหน้าพ่อของตัวเอง และดูเหมือนว่าตัวของเขานั้นจะยังไม่เข้าใจว่าชีวิตการมีลูกของลูกผู้ชายที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร "ไอร่อนไมค์" ที่ใครต่อใครต่างชื่นชมเมื่อขึ้นเวที กลายเป็นแค่ผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบในสายตาของลูกๆ นั่นคือสิ่งที่เขาทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต
ในช่วงเข้าสู่ยุคปี 2000 ไทสัน เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าการมีชีวิตอยู่แบบยอดนักชกของเขากำลังใกล้จะจบลง เขาไม่ทันนึกถึงสังขารที่ร่วงโรย และเผลอแว็บเดียว ไทสัน ก็ตกอับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Photo : www.telegraph.co.uk
ไทสัน กลายสภาพเป็นบุคคลล้มละลายมาตั้งแต่ปี 2003 สาเหตุเป็นเพราะพฤติกรรมรุนแรง บวกกับการใช้ชีวิตหรูแบบไม่บันยะยันยัง ทำให้รายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ของไทสัน ถูกใช้ไปในเรื่องสีเทาๆ แถมยังตกต่ำสุดขีด ถึงขนาดต้องจำคุกและขายทรัพย์สินเกือบทุกชิ้นที่มีเพื่อใช้หนี้ หลังจากนั้น แชมป์โลกต้องกลายมารับจ็อบ โชว์ตัวในโรงแรมแถบลาสเวกัส รวมถึงรับเป็นนักแสดงรับเชิญที่ต้องรับบทตลก หมดลายสิ้นชื่อ "มฤตยูดำ" อย่างเต็มรูปแบบ ... แต่ชีวิตคนเรานั้นมีเรื่องให้ต้องแปลกใจเสมอ บนความสูญเสียเชื่อเสียงและฐานะครั้งนี้ กลับทำให้ ไทสัน ได้เห็นอีกด้านของชีวิตที่มองข้ามมานาน นั่นคือการเป็น "หัวหน้าครอบครัว" ที่ดีให้ได้สักครั้งก่อนตาย
ดวงตาเห็นธรรม
ไทสัน และ กีกี้ (ลาคิญ่า) กำลังเผชิญชีวิตที่ไม่เคยเจอ ทั้งสองคนต้องเข้าไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยเงินที่เหลือเพียงหยิบมือ เขาบอกให้ กีกี้ ขโมยของในซูเปอร์ฯ นั้นซะเหมือนกับที่แม่ของเขาเคยขโมยของตามร้านของชำเลี้ยงเขาในวัยเด็ก ไทสัน ยัดอาหารกระป๋องใส่เสื้อของ กีกี้ เพราะยากต่อการตรวจค้น และเตรียมจะเชิดมันไปแบบไม่จ่ายเงิน ทว่าเธอไม่ยอม
"ไมค์ … เอามันกลับไปวางที่เดิมเดี๋ยวนี้" กีกี้ ชี้ขาดใส่ ไทสัน
Photo : www.dailymail.co.uk | Splash
"เรามีแค่นี้ก็พอแล้ว ได้โปรด … ฉันไม่อยากจะต้องอับอายอีก" จากเสียงแข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นเสียงของความเห็นใจ เธอรู้ว่า ไทสัน ตั้งตัวไม่ได้จากการตกสวรรค์ แต่ความจริงคือทุกอย่างนั้นมีทางออกที่ถูกต้องเสมอ … "เอ็กโซดัส" การอพยพจากสิ่งเลวร้ายไปสู่สิ่งที่ดีกว่ากำลังจะเกิดขึ้นกับเขา
"ภรรยาของผมทำให้รับรู้อะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยมีมาก่อน ตลอดเวลาผมคิดว่าผมควรจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการในโลกนี้ แต่นับตั้งแน่คำนั้นของเธอมันเหมือนเป็นคำเตือนจากสวรรค์"
ไทสัน กลับมาเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เขาบ้าน้อยลงกว่าที่เคยเป็นมาในรอบหลายปี เขาพยายามอย่างหนักที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวและดูแลลูกๆ ทุกคนไม่ว่ากับภรรยาคนไหนๆ เขาสู้อีกครั้งและกลับมาเปิดบริษัท Iron Mike Promotions เพื่อหาเงินกลับมาดูแลทุกชีวิตที่เขาต้องรับผิดชอบ
"ผมรักลูกๆ ของผมทุกคน แต่ลูกสาวของผมทำให้ผมอยากจะเป็นคนดี ผมต้องการให้ลูกสาวของผมได้รับการปฎิบัติเหมือนที่ผมทำต่อพวกเขา ตอนนั้นผมกลัวว่าจะไม่สามารถดููแลภรรยาและลูกได้ในแบบที่พวกเขาทุกคนสมควรได้รับ ผมกลัวว่าชีวิตของผมจะหายไปแบบเงียบๆ สุดท้ายต้องกลายเป็นคนจรจัดไม่มีบ้านอยู่ ผมมีเรื่องให้กลัวมากมายอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แต่ผมก็พยายามมากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน"
Photo : bodyheightweight.com
การกลับมาเป็น "แดดดี้ ไมค์" รอบนี้ไม่ใช่แค่เงินเท่านั้นที่ ไทสัน มอบให้ลูกๆ ทุกคน เขาเรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต เขาให้ความสำคัญกับลูกๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้เวลาด้วยการพาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ และยังเปิดตัวออกสื่อเพื่อให้เด็กๆ ได้ภูมิใจว่าอย่างน้อยๆ พ่อของพวกเขาก็เต็มใจที่จะบอกว่าพวกเขาคือลูกของใคร โดยเฉพาะ มิเกล และ เอ็กโซดัส ลูกกับภรรยาเก่าอย่าง โซล โซชิตล์ ที่ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์แบบสามี - ภรรยา จะจบไปแล้วแต่ทั้งคู่ก็ตกลงกันใหม่ในความสัมพันธ์แบบพ่อและแม่ของลูก
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ธุรกิจของเขายอดเยี่ยมมาก เขาเดินทางไปนั่นทีโน่นทีจนตัวเลขในบัญชีธนาคารพุ่งทะยานสูงขึ้น "คนอย่างผมมันต้องแบบนี้แหละ" ไทสัน ภูมิใจกับการเป็นนักสู้ที่ฆ่าไม่ตาย แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นในปี 2009 ขณะที่เขากำลังโชว์ตัวอยู่ที่ลาส เวกัส
"คุณไทสันใช่ไหมครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ฟีนิกซ์ ลูกสาวของคุณประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง ให้คุณรีบมาที่นี่อย่างด่วนที่สุด" สิ้นเสียงจากปลายสาย หัวใจของเขาก็หล่นลงตาตุ่ม ... ชีวิตกำลังเล่นตลกกับเขาอีกครั้ง
เอ็กโซดัส
ไทสัน ติดต่อกับภรรยาเก่าจึงได้รู้ว่า เอ็กโซดัส ลูกสาววัย 4 ขวบที่เขาพาออกสื่ออยู่บ่อยๆ ประสบอุบัติเหตุตัวเข้าไปติดในสายพานของเครื่องออกกำลังกาย และโชคไม่ดีที่เธอเด็กเกินกว่าจะรับความเจ็บปวดไหว เด็ก 4 ขวบ เสียชีวิตหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาล St. Joe's Hospital ได้ไม่นาน
Photo : www.nydailynews.com
"อาจเป็นไปได้ที่เธอเข้าไปเล่นที่เครื่องออกกำลังกาย ซึ่งมันมีสายไฟมัดทิ้งเป็นบ่วงไว้อยู่ด้านล่าง เป็นไปได้ที่เธออาจจะลื่นหรืออาจเอาหัวใส่เข้าไปในเชือกนั่น และเธออาจจะไร้เดียงสาแก้เชือกที่รัดคอไม่เป็นจึงเป็นเหตุทำให้มันยิ่งรัดคอเธอแน่นขึ้นและทำให้เธอไม่สามารถแกะเชือกนั่นออกหรือหาทางเอาตัวเองออกมาจากเชือกนั่นไม่ได้" ผู้เป็นแม่ให้การณ์ไว้เช่นนี้เพราะเธอเองก็กำลังทำความสะอาดอยู่ที่อีกห้องหนึ่ง
ไมค์ รู้สึกโกรธมากและพร้อมจะโทษทุกๆ คน เขากำลังเป็นพ่อที่ดีแล้วแท้ๆ แต่ลูกสาวกลับต้องมาเสียชีวิต นั่นคือเรื่องที่เขาไม่อยากให้อภัยใคร ตลอดการนั่งเครื่องบินจากเวกัส จิตใจเขากระสับกระส่าย เป็นความโศกเศร้าพร้อมๆกับความโกรธแค้น และแล้วช่วงเวลาที่เขาจะต้องเผชิญความจริงก็มาถึง ไมค์ ตรงดิ่งถึง โรงพยาบาล และเปิดประตูเข้าไปอย่างหุนหัน ปั้ง!
"ผมโกรธมากจนสติขาดออกจากกัน ผมคิดในใจขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงผมแค่ฟังผิดเพราะอาการเมาค้าง แต่เมื่อผมไปถึงโรงพยาบาลเหตุการณ์นี้มันส่งผมลงนรกทั้งเป็น"
สัญชาติญาณดิบกำลังจะก่อตัวขึ้นอีกครั้งหลังไม่ได้ทักทายมานาน เขาอยากจะฆ่าใครสักคนเพื่อระบายแค้น แต่แล้วก็มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาตบไหล่เขาเบาๆ ... ไทสัน หันกลับไปมองและพบว่าผู้หญิงคนนี้ก็เพิ่งเสียลูกชายไปเหมือนกัน แต่สิ่งที่เธอแสดงออกมันต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง
"ผมเห็นคนอื่นๆ ที่ต้องสูญเสียลูกๆ ไปโดยไม่มีวันกลับที่โรงพยาบาล พวกเขาจัดการกับอารมณ์ของตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี และเมื่อผมเห็นแบบนั้นผมก็ตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองไม่ได้อยากเป็นพ่อแม่ที่เป็นโรคจิต"
Photo : www.nytimes.com
ความสำเร็จที่พยายามไขว่คว้าเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็เป็นคนที่ดีได้ แม้จะเคยถูกเรียกว่า "The Baddest Man On The Planet" หรือ ผู้ชายที่เลวที่สุดในโลก พังลงแบบไม่เหลือ ไทสัน ไม่รู้จะโทษใครกับเรื่องนี้ เขาพยายามแล้ว ทุกคนพยายามที่จะทำให้เรื่องนี้ดีขึ้น แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก เขาต้องกลับพึ่งการอ่านหนังสือและเข้าคอร์สสำหรับผู้ป่วยซึมเศร้า โชคดีที่เขาผ่านมันมาได้จากคำแนะนำของคนรอบข้างที่ล้วนส่งพลังบวกให้กับเขาเสมอ
"ไม่มีควาเป็นปฎิปักษ์ ไม่มีซึ่งความโกรธแค้น ผมไม่อยากรู้ด้วยซ้ำว่า เอ็กโซดัส ตายอย่างไร ถ้าผมรู้แน่นอนผมจะต้องโทษใครสักคนและหลังจากนั้นมันก็จะเป็นปัญหาเข้าไปอีก และผมโชคดีที่มีทึ่ปรึกษาดีๆ คอยอยู่เคียงข้าง"
การจากไปของ เอ็กโซดัส เมื่อตกผลึกแล้ว ไทสัน แก้ไขปัญหาที่เขาเริ่มขึ้นเองในวันที่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เขาพยายามติดต่อครอบครัวเก่าๆ ของเขาเพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกคนยังอยู่ในความสัมพันธ์อันดีซึ่งกันและกัน เพราะเมื่อทุกคนคิดว่าเราคือครอบครัวแล้ว การสูญเสียเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ทุกปัญหาจะถูกบอกเล่ามายัง ไทสัน และเขาจะแก้ปัญหานี้ด้วยจิตวิญญาณของลูกผู้ชายที่แท้จริง ที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน
"ผมถือว่าผมโชคดีที่ผมมีลูกกับผู้หญิงหลายคน และการที่ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวได้ และทุกคนรักกัน มันคือทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมมีอยู่กับตัว" ไทสัน ว่าไว้
Photo : MaximoTV
ตอนนี้ ไทสัน กำลังดูแลธุรกิจที่เติบโตและรุ่งโรจน์ พร้อมๆ กับลูกๆ ของเขาทั้งสองคนกับ กีกี้ อย่าง มิลาน และ โมร็อคโค ที่ถือเป็นลูกคนเล็กที่สุดที่เขาต้องดูแล ไทสัน บินไปตามที่ต่างๆ มากมายแต่ไม่ใช่เพราะไปทำธุรกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขาพาลูกๆ ไปเรียนเทนนิส และใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุด
"ถ้าถามว่าผมให้คะแนนความเป็นพ่อของตัวเองเท่าไหร่ในตอนนี้น่ะเหรอ? ผมว่าผมเป็นพ่อที่ดีมากนะ" ไอร่อน ไมค์ ส่งท้าย