น.ส.สิริกานต์ หรือ น.ส.เสฬษศิธร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 หมาย ในข้อหา ลักทรัพย์, ยักยอก และ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและเป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์ ซึ่งมีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงฯ

น.ส.สิริกานต์ หรือ น.ส.เสฬษศิธร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 หมาย ในข้อหา ลักทรัพย์, ยักยอก และ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและเป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์ ซึ่งมีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงฯ พฤติการณ์คือ ประมาณเดือนมิถุนายน 2560 มีผู้เสียหายจำนวนกว่า 100 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ถูกอดีตแม่ค้าขายข้าวแกงรายหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ชักชวนให้เล่นแชร์ผ่านเฟชบุ๊ก ก่อนเชิดเงินและหลบหนีไป โดยมีวงเงินความเสียหายมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง ไม่มีหน้าร้าน และจะใช้วิธีทำส่งตามที่มีการสั่ง จึงทำให้รู้จักคนเป็นจำนวนมาก โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นลูกค้าข้าวแกงแทบทั้งหมด

โดยผู้ต้องหารายนี้ จะทำการสร้างเพจในเฟซบุ๊กชื่อว่า “บ้านเววา” และดึงลูกค้าข้าวแกงและคนรู้จักเข้ามาในกลุ่มเฟซบุ๊ก ก่อนจะชักชวนเล่นแชร์ โดยมีการตั้งวงแชร์ขึ้นมาหลายกลุ่ม และหลอกล่อด้วยเงินตอบแทนจนเหยื่อหลงเชื่อ สำหรับการเล่นแชร์นั้น มีทั้งแบบรายวัน ราย 10 วัน ไปจนถึงรายเดือน โดยกำหนดเงินต้นตั้งแต่หลักพันไปถึงระดับ 10,000 – 30,000 บาทและหลักแสน ผู้เล่นบางรายมีการเล่นหลายมือ-หลายแบบ มีการชักชวนเพื่อนๆ คนในครอบครัวมาเล่นเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมาผู้ต้องหาจ่ายเงินตามปกติ จนเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2560 เริ่มผิดนัด ไม่โอนเงินให้ลูกแชร์ ลูกแชร์พยายามสอบถามไปทางข้อความส่วนตัวก็บ่ายเบี่ยง จนมีการปิดเฟซบุ๊ก ปิดไลน์หนี ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า หลังหลบหนีผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักทรัพย์และยักยอกเงินในพื้นที่เดียวกัน อีกทั้งยังได้หลบหนีการประกันตัวในคดีดังกล่าวอีกด้วย

ต่อมาชุดสืบสวน ทราบว่า น.ส.สิริกานต์ ผู้ต้องหาได้ทำศัลยกรรมใบหน้าและเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.เสฬษศิธร หลบหนีมาอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงได้เข้าทำการสืบสวน และจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งศาลจังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดี โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าได้ชดใช้ค่าเสียหายบางส่วนให้ลูกแชร์แล้ว