ด้วยดีกรี “ยอดมวย” ที่ติดตัวนักชกทั้งสองราย คนหนึ่งเจ้าของฉายา “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย เป็นนักมวยไทยที่ว่ากันว่า ฟอร์มดีที่สุดใน พ.ศ.นี้ กำลังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพการชก การันตีด้วยกวาดรางวัลทุกสถาบันที่มีการประกาศผลออกมา
ส่วนอีกรายนักชกอัจฉริยะ เจ้าของฉายา “ขวัญใจนักเรียน” แสงมณี ที่เคยคว้ารางวัล ยอดมวย มาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่มีมูลค่าสูงสุด รวมถึงมีไฟต์ชกในต่างแดนบ่อยครั้ง จนสามารถผันตัวมาเปิดค่ายมวยของตัวเองได้สำเร็จ
สำหรับคนที่ติดตามแวดวงกำปั้นมวยไทย คงไม่ต้องสาธยายว่า ทำไมคู่นี้ถึงเป็นดรีมไฟต์ที่แฟนๆ คอยรอคอยมานานหลายปี
แต่หากจะอธิบายให้คนอาจไม่ได้ติดตามมวยไทยอาชีพ เป็นประจำเข้าใจได้ง่าย คู่นี้เปรียบได้ดั่ง“ฟลอยด์ เมย์เวทเทอร์ จูเนียร์” พบกับ “แมนนี่ ปาเกียว” ในวงการมวยไทย ยังไงยังงั้น...และมีเรื่องราวที่มากกว่าแค่สองนักมวยเก่งมาเจอกัน ให้ผู้คนได้ติดตามในการเจอหนที่สอง แสงมณี กับ ตะวันฉาย
“จริงๆ คู่นี้ บรรดาเซียนมวยคาดการณ์มา 3-5 ปีแล้วว่า ทั้งสองคนน่าจะมีโอกาสได้เจอกันในสักวันหนึ่ง เพราะตะวันฉายกับ แสงมณีมีหลายอย่างที่คล้ายกัน”
“ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การชกที่เป็นมวยฝีมือ ถนัดซ้าย วิธีการชกก็คล้ายกัน แถมยังหน้าตาดีทั้งคู่ เรียกว่าเป็นไฟต์ที่ถูกคู่ ถูกเวลา ถือเป็นอีกหนึ่งไฟต์ประวัติศาสตร์ เปรียบเหมือน ฟลอยด์ - ปาเกียว ของวงการมวยไทยเลยก็ว่าได้”
“เอก ชุมพร” สุรพัศ จารุมณี ผู้สื่อข่าวสายมวยไทย สำนักข่าวไทยรัฐ ทีวี พูดถึงการโคจรมาพบกันระหว่าง แสงมณี เสถียรแสงมณีมวยไทยยิม กับ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย
หากย้อนเส้นทาง ก่อนมาเป็น ไฟต์มวยไทยแห่งยุค นักชกทั้งสองราย ก็มีความใกล้เคียงมาอยู่พอสมควร ตรงที่เป็นนักมวยที่มีความเก่งกาจมาตั้งแต่อายุยังน้อย
แสงมณี เสถียรแสงมณีมวยไทยยิม ได้แชมป์ทารกเงินล้าน ตอนอายุ 10 ขวบ ก่อนจะพัฒนาฝีมือ จนสามารถไปชกมวยรุ่นพี่ชื่อดังหลายราย และหลายครั้งก็เอาชนะมาได้ จนได้รับรางวัลยอดมวยสองเวที (ลุมพินี-ราชดำเนิน) คนแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2555
เขาเก่งกาจจนถึงขั้นที่เคยถูกจีบให้ไปชกมวยสากลสมัครเล่น ให้ทีมชาติไทย ต่อมาภายหลัง หวนกลับมาสู่วงการมวยไทยอีกครั้ง และเริ่มออกไปสร้างชื่อชกในต่างแดน
ขณะที่ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย ฉายแววเก่งมาตั้งแต่ต่อยมวยเด็ก ในชื่อเดิม จตุคาม เพชรรุ่งเรือง กระทั่งถูกซื้อตัวด้วยราคาเกือบครึ่งล้าน ในวัย 16 ปี มาอยู่ในสังกัด พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์
ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มในปี 2561 เมื่อสามารถเก็บชัยชนะได้ทุกไฟต์ โดยเฉพาะไฮไลท์คือการย้ำแค้น ยอดมวยคนล่าสุด “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” 3 ไฟต์ติดต่อกัน และส่งท้ายปีเอาชนะ TKO หนึ่งล้านเล็ก จิตร์เมืองนนท์
“สมัยเป็นดาวรุ่ง ผมไม่เคยคิดว่า จะมีโอกาสได้ชกกับพี่เขา (แสงมณี) เพราะตอนที่พี่เขาดัง ผมยังน้ำหนักแค่ร้อยปอนด์เอง” ตะวันฉาย กล่าวถึง แสงมณี
ด้วยฟอร์มการชกที่สดเกินห้ามใจ ยากที่จะหาตัวมาต่อยมาได้ ในพิกัด 137 ปอนด์ของ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ทำให้เกิดกระแสที่ผู้คนในวงการอยากเห็น ยอดมวยจากจังหวัดชลบุรี วัดคมกับ แสงมณี เสถียรแสงมณีมวยไทยยิม ซึ่งโด่งดัง ประสบความสำเร็จมาก่อน และเป็นมวยฝีมือจัดจ้านเหมือนกัน
“ก็หนักใจเหมือนกันเพราะตะวันฉาย ใหญ่กว่า และชั่วโมงนี้ฟอร์มของน้องก็ร้อนแรงจริงๆ ออกอาวุธได้ครบเครื่อง” แสงมณี เผย
สิ่งที่ทำให้ไฟต์น่าสนใจ เพราะการที่สามารถนำเอา สองยอดมวย อย่าง แสงมณี และ ตะวันฉาย มาเจอกันได้นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เนื่องจากโปรโมเตอร์ เจ้าของค่าย ส่วนใหญ่ ไม่นิยมปล่อยนักชกตัวเก่งของตัวเอง ไปต่อยในรายการต่างศึกต่างสาย ที่โปรโมเตอร์คนอื่นดูแล ทำให้มวยแถวหน้าของเมืองไทย ที่แฟนมวยมองว่าน่ามาเจอกัน ก็ไม่ได้เจอกัน หากทั้งคู่ อยู่กันคนละศึก
แม้โปรโมเตอร์หลายคน จะมีความพยายามที่อยากจัดคู่ “แสงมณี - ตะวันฉาย” ในกรุงเทพฯ แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่มีใครที่สามารถเจรจาให้ทั้งสองฝ่ายพอใจได้ ทั้งเรื่องของวันเวลา สถานที่ น้ำหนัก รวมถึงค่าตัวที่ทั้งแสงมณี และ ตะวันฉาย ก็ถือเป็น 2 นักชกค่าตัวเรือนแสน
เอก ชุมพร ผู้สื่อสาวสายมวย ไทยรัฐ ทีวี บอกกับเราว่า “ผมบอกเลยไฟต์แบบนี้เกิดขึ้นในเมืองไทยยากมาก เพราะคู่นี้ถือเป็นการเจอกันของมวยต่างศึกต่างสาย และมีเรื่องของผลประโยชน์ค้ำคอ ตะวันฉาย ส่วนใหญ่ชกอยู่ในรายการป้าชุ้น (พีรพงษ์ ธีระเดชพงษ์) ส่วน แสงมณี ค่อนข้างมีอิสระเป็นเจ้านายตัวเอง ได้ไปชกต่างประเทศบ่อยครั้ง เซ็นสัญญากับ ท็อปคิงส์”
“ดังนั้นการจัดไฟต์แบบนี้ได้ ต้องเจรจาให้ผลประโยชน์หลายอย่างๆ ลงตัว โดยคนสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้เกิดไฟท์แรกได้ คือ โกเด๊ะ (พรัญชัย อดิเทพวรพันธ์) เพราะคนใหญ่ในวงการมวยไทย ล้วนแล้วแต่ซูฮกความมีน้ำใจ และนับถือในตัวโกเด๊ะ ซึ่งเมื่อโกเด๊ะเอ่ยปาก เจ้าของค่าย โปรโมเตอร์ ก็ยินดีปล่อยนักมวยไปชก”
ระหว่างที่ความคลุมเครือเกิดขึ้นมาตลอด 2-3 เดือน “โกเด๊ะ” พรัญชัย อดิเทพวรพันธ์ โปรโมเตอร์ และเจ้าของค่ายพรัญชัย คือผู้ที่เข้ามาปลดล็อก พร้อมกับทำให้ดรีมไฟต์เกิดขึ้นได้
โกเด๊ะ ถือเป็นบุคคลที่มีเครดิตในวงการมวยสูง รวมถึงเป็นโปรโมเตอร์ ที่กล้าทุ่มราคาสู้ค่าตัว ดึงนักมวยฝีมือดีมาชกเจอกันเป็นครั้งแรก รายการฉลองวันเกิดของตนเอง ในพิกัด 137 ปอนด์ เฉพาะแค่ค่าตัว แสงมณี เรตราคาที่เขาชกในเมืองไทย อยู่ที่ 250,000 บาท ซึ่งเป็นการวางมัดจำล่วงหน้า 100,000 บาท ส่วน ตะวันฉาย มีค่าตัว 150,000 บาท
“ผมได้วางมัดจำค่าตัวของแสงมณีไปแล้ว 1 แสนบาท ส่วนของตะวันฉาย เสี่ยแขกบอกไม่มีปัญหาอยู่แล้วอะไรยังไงก็ได้ ซึ่งตนก็ต้องขอขอบคุณทั้ง เสี่ยแขก พี.เค. และ เสี่ยหนุ่ม ท็อปคิงส์ ที่ดูแลคิวชกของแสงมณีด้วย” โกเด๊ะ กล่าวเริ่ม
“ผมดีใจนะที่จะได้ทำฝันของแฟนมวยให้เป็นจริง คู่นี้คือคู่ในฝันสุดยอดฝีมือแห่งยุค ต้องขอบคุณเสี่ยแขกกับเสี่ยหนุ่มด้วยนะครับ รวมถึงเฮียชุ้นด้วย ผมคิดและตั้งใจมานานแล้ว ถ้าไม่มีใครจัดผมจะจัดเอง เพราะคู่นี้ผมก็อยากดูมาก”
“คู่นี้คือคู่มวยดีที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผมเคยเจอมา เพราะมีครบทุกอย่าง ความคลาสสิค การแก้เกม เดี๋ยวคงได้รู้ว่าซ้ายไหนดีกว่า ใครหนักกว่า ใครเร็วกว่ากัน ก็อยากให้ทุกคนมาดูกับตา เพราะไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะได้คู่มวยดีแบบนี้ ที่สำคัญรายได้ทั้งหมดเข้าการกุศลทุกบาททุกสตางค์"
โดยผลการชกไฟต์แรก ตะวันฉาย กลายเป็นคว้าชัยไปได้ จากการเตะก้านคอส่ง แสงมณี ลงไปนับ 8 ก่อนปิดเกมด้วยการถีบน็อก ยอดมวยรุ่นพี่ ลงไปกองกับพื้น
นอกเหนือจากดีกรีที่สมน้ำสมหน้ากันทั้งคู่ อีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ ไฟต์นี้น่าสนใจไม่แพ้กัน คือการออกมาโต้ตอบกันผ่านสื่อออนไลน์
ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนไอค่อนของนักมวยไทยยุคใหม่ ที่มีความกล้าสร้างสีสัน รู้จักสร้างตัวตน คาแรกเตอร์ มากกว่าขึ้นไปต่อย ชกแล้วจบกันไป จนทำให้ทั้งคู่มีแฟนคลับที่ติดตามทางโซเชียลมีเดีย มากพอสมควร
แสงมณี กับ ตะวันฉาย ต่างให้สัมภาษณ์และโพสต์ตอบโต้กันไปมา ยกตัวอย่างในไฟต์แรก แสงมณี บอกว่าไฟต์นี้ตนพร้อมมาก ฝากให้รุ่นน้องอย่าถอน และฟอร์มที่ ตะวันฉาย เอาชนะคู่แข่ง หรือได้รางวัลยอดมวยมา นั่นเป็นเพราะยังไม่เจอกับเขานั่นเอง ด้าน ตะวันฉาย ก็ตอบกลับว่า ก็มาดิครับ พร้อมเจอเช่นกัน
หรืออย่างในไฟต์ที่สอง ก่อนเกมที่เจอกัน ก็มีการตอบโต้ไปมาอย่างเผ็ดร้อน บนโลกออนไลน์ ยิ่งทำให้แฟนมวย อยากติดตาแมตช์ล้างตานี้มากขึ้น
โดยการชกในไฟต์ที่สอง จะชกกันในพิกัด 139 ปอนด์ จัดขุึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ในงานรวมพลคนสมุย + เกียรติเพชรซูเปอร์ไฟต์ ที่เวทีมวยชั่วคราว ข้างโรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้สมาคมชาวสุราษฎร์ธานี และโรงพยาบาลเกาะสมุย
ทั้งหมดคือเหตุผลและที่มาที่ไปของ ดรีมไฟต์ระหว่าง “แสงมณี และ ตะวันฉาย” สองไอคอนนักมวยไทยรุ่นใหม่ กับแมตช์ที่อาจปลุกให้กระแสวงการกำปั้นบ้านเราคึกคักอีกครั้ง และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่าง เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่การพบกันของทั้งคู่จะไม่สิ้นสุดแค่ไฟต์ที่สอง