หลังจากที่คณะกรรมการกีฬามวยมีมติแต่งตั้ง นายปรเมษฐ์ ภักดีคีรีไพรวัลย์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยคนใหม่ โดยเริ่มรับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา งานนี้ รองอ๊อด สารคาม ผู้สื่อข่าว SMMมวยไทยรายวัน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผอ.มวยคนใหม่ ว่ามีแนวทางในการทำงานและพัฒนาวงการมวยอย่างไรบ้างแบบเจาะลึกคำต่อคำ
รองอ๊อด สารคาม : ตามประวัติทราบว่าท่านเป็นนักมวยมาก่อน?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ครับผมอายุ 59 ปี เป็นคนลำปาง และเคยเป็นนักมวยมาก่อน ชื่อฤทธิ์อนันต์ เก๋าจาว ชกในระดับจังหวัด
รองอ๊อด สารคาม : ท่านเริ่มเข้ามาปฎิบัติงานแบบจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ผมเริ่มเข้ามาปฎิบัติงานเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม แต่คำสั่งแต่งตั้งเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ตอนนี้ปัญหาทุกอย่างก็เกือบสมบูรณ์แล้ว เรื่องเงินเยียวยาก็ได้ส่งเอกสารหลักฐานให้กับกระทรวงการคลังตรวจสอบ และได้รับเงินมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้ทำการแจกจ่ายเงินเยียวยาให้นักมวย, เทรนเนอร์, หัวหน้าค่ายไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงคนเดียว ทุกอย่างก็สมบูรณ์แล้ว
รองอ๊อด สารคาม : ช่วงเข้ามารับตำแหน่งผอ.มวยมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ผู้ใหญ่พร้อมให้ผมทำงาน ผมก็พร้อมที่จะเดินหน้าทำงานเพื่อคนวงการมวยครับ ผอ.มวย คนเก่าท่านก็ทำใว้ดีอยู่แล้ว ตัวผมก็มาสานต่อ ตั้งใจทำให้หลายๆ ส่วนเป็นมาตรฐาน
รองอ๊อด สารคาม : มีอะไรที่หนักอกหนักใจบ้างหรือไม่ครับ?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ก็ไม่มีอะไรหนักใจ ส่วนที่ตั้งใจใว้ว่าจะทำแต่จะสำเร็จหรือไม่ เช่นเรื่องฝึกสอนให้มวยไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรื่องของกรรมการผู้ตัดสิน ก็จะให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เรื่องของค่ายมวยมาตราฐานทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ ต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมือนกันทุกภาคส่วน โดยมาตราฐานของผู้ฝึกสอนก็ได้ทำกันหลาย ผอ.มาแล้ว ที่ชัดเจนมากที่สุดก็ในสมัยของ ผอ.สันติ จนมาถึงสมัย ผอ.เดช ก็ยังเป็นรูปธรรมที่ค่อนชัดเจนอยู่ แต่ที่มาบูมสุดๆ ตอนที่ผมเป็นหัวหน้างานส่งเสริมพัฒนาและกำกับควบคุมกีฬามวย มี อาจารย์จรัสเดช อุลิต และ อาจารย์โพธิ์สวัสดิ์ แสงสว่าง ครูมวยอาสุโส ดูแลเรื่องอบรมไลน์เส้นของครูมวย ซึ่งมีคนของเราที่ได้ผ่านการอบรมไลเซนส์ได้ไปอยู่ต่างประเทศหลายคน เช่นที่ เซี่ยงไฮ้ ที่ผ่านการอบรมของเราไป ได้เงินเดือนๆ ละ 120,000 บาท ประมาณ 4-5 คน และอีก 30 คน อย่างต่ำเงินเดือน 50,000บาท ไม่รวมไพรเวทสอนพิเศษ ประมาณ 70,000 บาท ตอนนี้ผมกำลังทำมาตราฐานของครูมวย ผู้ฝึกสอนมวย ค่ายมวยไทย ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ปีที่ผมอยู่ ให้ได้รับอานิสงค์ตรงนี้
รองอ๊อด สารคาม : แล้วชาวต่างประเทศที่สนใจมาอบรมครูไลเซนส์?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ผมจะดูแลในเรื่องของการอบรมไลเซนส์ ชาวต่างชาติที่จะเรียนไลเซนส์ได้จะต้องผ่านการอบรมจากครูมวยของค่ายมวยในเมืองไทยทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ต่อไปจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนามวยไทย เพราะต่างประเทศเขารู้กันหมดแล้วว่าการใช้หมัด เท้าเข่า ศอก แต่ความเป็นมาตราฐานความถูกต้องยังไม่ปรากฎให้ชาวต่างชาติหรือคนไทยได้เห็นอย่างชัดเจนดังนั้นจึงต้องสร้างเป็นหลักสูตรมาตราฐานแกนกลาง
รองอ๊อด สารคาม : เรื่องการตัดสินล่ะครับ?
ผอ.ปรเมษฐ์ : เรื่องของผู้ตัดสินไลเซนส์ ก็จะทำให้เป็นมาตราฐาน ผู้ตัดสินทั่วโลกและผู้ตัดสินที่อยู่ในเมืองไทย ต้องเข้าสู่ระบไลเซนส์ และต้องมีเงินเดือนค่าตอบแทนที่ชัดเจน ชาวต่างชาติหรือคนไทยต้องเข้าสู่ระบบคัดกรองเป็น ผู้ตัดสิน A, B, C ไลเซนส์ มาตราฐานต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนกับไอบ้า ทางด้านมาตราฐานค่ายมวย เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมาช่วงที่ผมเป็นหัวหน้างานก็ได้ทำการของบประมาณใว้เพื่อที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับค่ายมวยต่างๆ ในปีนี้ก็เพิ่งสำเร็จ ทางสมาคมมวยอาชีพก็ได้มีการจัดสรรซื้ออุปกรณ์ต่างๆ แจกจ่ายให้กับพี่น้องค่ายมวยต่างๆ แล้ว และในปีหน้า 2564 ก็จะทำให้ได้ทุกค่าย และมาตราฐานต้องมีผู้กำกับไลเซนส์อยู่
รองอ๊อด สารคาม : เป็นห่วงเรื่องการตัดสินไหมครับ?
ผอ.ปรเมศษฐ์ : ก็มีความเป็นห่วงเรื่องนี้มากไม่ว่าจะเป็นนักมวยชกไม่สมศักดิ์ศรี และอีกหลายอย่าง ประมาณเดือนหน้าจะเรียนเชิญผู้จัดมวยต่างๆ บุคคลที่เกี่ยวข้องวงการมวยทุกภาคส่วนเข้ามาพูดคุยมาปรึกษามาทำความเข้าใจทำความตกลงกันให้ทุกอย่างเดินหน้าด้วยความเหมาะสม
รองอ๊อด สารคาม : ฝากอะไรถึงวงการมวยครับ?
ผอ.ปรเมษฐ์ : ฝากถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการมวยทุกภาคส่วนให้ช่วยกัน ทั้งมวยบ้านนอกมวยภูธร ให้ตั้งใจฝึกซ้อม ด้านกรรมการตัดสินก็ต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม ให้ทุกอย่างทุกภาคส่วนหันหน้าเข้าหากัน มวยไทยต้องคงอยู่คงกับคนไทยตลอดไป มวยไทยเป็นศิลปะที่น่าชม