ดูอย่าง "รถถัง จิตรเมืองนนท์" นักมวยจอมบู๊ที่ได้เซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ ชกแต่ละไฟต์ได้ค่าตัวถึง 7 หลัก มากกว่าชกเมืองไทย 4-5 เท่า ที่ผ่านมาทำสัญญาไปเพียงปีเศษ ขึ้นชกมาแล้ว 7 ไฟต์ คำนวณกันเล่นๆ รถถังรับทรัพย์ไประดับเศรษฐีย่อยๆ
รวยหรือจนจริงๆ อาจไม่สำคัญเท่าความตั้งใจที่จะตอบแทนบุญคุณบุพการี เพราะตั้งแต่ปี 2561 ก่อนที่รถถังจะรู้ตัวว่าจะได้เซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ เขาก็เริ่มสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ที่จังหวัดพัทลุง อันเป็นบ้านเกิด
อาจมีหลายคนรู้แล้วว่า พ่อกับแม่ของรถถังนั้นแยกกันมาอยู่มาหลายปี เมื่อสร้างบ้านให้แม่แล้ว รถถังก็มีความตั้งใจที่จะสร้างบ้านให้พ่อด้วย ซึ่งหลังจากที่เขาได้เข้ามาร่วมแข่งขันในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ได้เพียงปีเศษ วันนี้เขาสามารถักทอความตั้งใจให้เป็นรูปธรรม โดยได้สร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อ ตั้งอยู่ห่างจากบ้านแม่ราว 20 กิโลเมตร
แม้บ้านของพ่อและแม่ที่รถถังสร้างให้จะไม่ใหญ่โตหรูหรา แต่ก็พอเหมาะพอดีที่พ่อและแม่จะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมากกับการปัดกวาดเช็ดถูดูแล ที่สำคัญมันมาจากหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรงของนักมวยหนุ่มสู้ชีวิตที่มีอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น
นอกจากเงินสร้างบ้าน รถถังยังส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าหยูกยาสารพัด โดยหวังให้บุพการีมีชีวิตที่สุขสบายในบั้นปลายชีวิต โดยเฉพาะระยะนี้ที่พ่อแม่มีอายุมากขึ้นและอยู่ในวัยเจ็บออดๆ แอดๆ เจ้าตัวก็ต้องจัดสรรเงินไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล
แม่ของรถถังสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ขาแข้งเดินไม่สะดวก ส่วนพ่อก็ป่วยเป็นมะเร็งที่เพดานช่องปากระยะที่ 3 ไม่รู้ว่าอนาคตต้องใช้เงินในการรักษาเท่าไหร่ ในขณะที่ตัวพ่อเองก็ปฏิเสธการฉายแสงเพราะกลัว จึงทำให้การรักษาไม่เป็นไปตามที่แพทย์แนะนำ ทำเอารถถังถึงกับเครียดหนักและพยายามคะยั้นคะยอให้พ่อเข้ารับการรักษาให้ได้
ถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายท่านคงเห็นความเป็นลูกกตัญญูที่มีอยู่ในตัวของนักมวยหนุ่มวัย 22 ปีจากพัทลุงคนนี้ รถถังมีพี่น้องถึง 10 คน เขาเป็นลูกคนที่ 8 พี่น้องทุกคนต่างทำงานรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่มีใครเบียดเบียนใคร พึ่งพาอาศัยกันตามแต่ใครจะมีกำลังมากน้อย แต่รถถังพูดเสมอว่าครอบครัวของเขาพี่น้องรักกัน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากครอบครัวหนึ่งทีเดียว