30 เม.ย.63) เฟซบุ๊ก Usah Pruttijirawong ของ นพ.อุสาห์ พฤฒิจิระวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวของ ทารกเพศชาย อายุ 2 เดือน มีไข้ 3 วัน ไอมีเสมหะ 4 วัน มาหาหมอด้วยอาการไอมีเสมหะ ตรวจร่างกาย น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม วัดปรอททางรักแร้ 37.2 องศาเซลเซียส หายใจ 48 ครั้งต่อนาที ชีพจร 152 ครั้งต่อนาที เสียงปอดมีเสมหะเปรอะๆ ทั้งสองข้าง เสียงหัวใจปกติ ภาพเอกซเรย์ปอดมหาเปรอะ หัวใจปกติ หากเป็นโควิดก็อธิบายได้ เพราะเด็กอายุ 2 เดือนยังเดินเล่นไม่ได้ ส่วนมากอยู่ท่านอน ส่วนเด็กโตกับผู้ใหญ่อยู่ในแกนวาย แนวตั้ง มากกว่าแนวนอน ปอดโควิดจึงพบกลีบล่างมากกว่ากลีบบน
ทารกรายนี้เลี้ยงนมแม่ร่วมกับนมขวด มารดาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอยู่บ้าน บิดาทำงานในหน้าที่นับตู้คอนเทนเนอร์ในเรือสินค้าที่มาจากต่างประเทศ
ปัญหา คือ ขอส่งตรวจโควิด19 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่เห็นพ้องแจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์ จึงไม่ให้รหัสส่งตรวจ PCR
ทารกอายุ 2 เดือนนับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ต่อให้ผลเอกเรย์บิดามารดาปกติจะบอกว่าไม่ใช่โควิดได้ไหม เรื่องวัดไข้ไม่ขึ้น หมอที่ไหนการันตีอุณหภูมิร่างกายว่าไม่มีไข้แปลว่าไม่ป่วย
ทั้งนี้ นพ.อุสาห์ ระบุถุงปัญหาในการทำงาน ที่คนไม่เห็นคนไข้กำหนดการทำงานของคนที่มีความเสี่ยงหน้างานและรู้เรื่องอาการคนไข้มากกว่า ให้คนที่รักษาโรคไม่เป็นมากำหนดการดูแลรักษาโรค กระบวนการทำงานที่ให้อำนาจคนที่ไม่รู้เรื่องโรคมาเพิ่มแรงกดดันด้านหลังของหมอ พยาบาล ส่วนคนไข้และสังคมก็กดดันจากด้านหน้า จะมีใครรู้บ้างว่าคนทำงานโดนกดดันเช่นนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ยืนยันว่าเด็กจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แต่ถ้าหากหากรายนี้เป็นโควิด-19 จะเป็นการส่งสัญญาณว่าระลอกสองกำลังมา หากระลอกสองมาจริง และการสนับสนุนหน้างานยังเป็นเช่นนี้ หมอพยาบาล อาจสิ้นหวังขอกักตัวเองอยู่บ้าน