ตู้ปันสุขพิจิตรเจอคนเห็นแก่ตัวขี่มอเตอร์ไซค์-สามล้อ แวะเวียนมากวาดของเกลี้ยงตู้ ไม่เห็นคนอื่นที่เดือดร้อน
(12 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า ชาวพิจิตรร่วมกับจิตอาสาผู้ใจบุญนำตู้ “ชาละวันแบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” จำนวน 3 ตู้ มาตั้งไว้บริเวณหน้า ร้านอาหารครัวมายมิกเซอร์ ถนนธิตะจารี เขตเทศบาลเมืองพิจิตร เพื่อแบ่งปันน้ำใจแก่กันระหว่างผู้ให้ และผู้รับ โดยเปิดให้ผู้มีน้ำใจหยิบสิ่งของเข้าไปใส่ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่เดือดร้อนหยิบของจากในตู้ไปแต่พอดีเพื่อนำไปประทังชีวิต โดยเขียนป้ายคำว่า “เชิญหยิบได้ฟรี นำไปแต่พอดี คนละไม่เกิน 4 ชิ้น มีคนอื่นที่เดือดร้อนต้องการอีกเยอะ และหากท่านมีปันน้ำใจใส่เพิ่มตามศรัทธา”
ซึ่งหลังจากติดตั้งตู้และนำอาหารใส่เต็มตู้ มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และผู้ที่เดือดร้อน ขาดแคลน และยากไร้ รวมทั้งผู้หิวโหย ต่างทยอยเดินทางมาหยิบไปบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันมีประชาชนที่มีและพร้อมที่บริจาคแบ่งปันกันในยามวิกฤต ต่างนำเครื่องอุปโภค-บริโภค ทยอยนำมาวางจัดเรียงไว้ในตู้ เพื่อเป็นสะพานบุญปันน้ำใจซึ่งกันละกันอย่างไม่ขาดสาย
คุณอมร เจ้าของร้าน ครัวมายมิกเซอร์ กล่าวว่าตนเองพร้อมด้วยเพื่อนๆซึ่ง เป็นจิตอาสาได้นำตู้ โดยใช้ชื่อว่า “ชาละวันแบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” จำนวน 3 ตู้มาติดตั้งไว้หน้าร้าน โดยจะมีสิ่งของที่ ได้รับบริจากจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นไข่ ปลากระป๋อง นมกล่อง ฯลฯ มาใส่ตู้ไว้เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ยังมีคนเห็นแก่ตัวไม่คิดถึงคนอื่นที่กำลังเดือดร้อน นำรถจักรยานยนต์ รถสามล้อ มาขนของในตู้ จนเกือบหมด วันละหลายครั้ง ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะผู้ใจบุญเขาร่วมด้วยช่วยกันบริจาคแล้ว แต่คนที่มาขนก็น่าจะมีจิตสำนึกว่าคนอื่นเขาก็เดือดร้อนเหมือนกัน ควรแบ่งปันกันในยามยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ตู้ชาละวันปันน้ำใจดังกล่าวนั้น เปิดแต่ช่วงเช้า 06.00 น.เป็นต้นไปจนถึง 21.00 น.ของทุกวัน ซึ่งนับว่าเป็นตู้ปันน้ำใจหนึ่งเดียวในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ที่สามารถหยิบยื่นเป็นสะพานบุญแบ่งปันซึ่งกันละกันในยามยาก แต่ก็ยังมีคนเห็นแก่ตัวที่คอยเอารถสามล้อ คอยแวะเวียนมากวาดสิ่งของบริจาคทั้งหมดตู้วันละหลายครั้ง ถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น ที่กำลังเดือดร้อนเช่นกัน