จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่มีชายคนหนุ่มคนหนึ่ง ตัดผมเกรียน พร้อมสะพายอาวุธปืน คล้ายกับปืนกล ยืนอยู่ข้างกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับซึ่งเป็นผู้ชาย โดยทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ชายคนที่สะพายปืนอ้างว่าเป็นตำรวจ ซึ่งหลังจากโต้เถียงกันสักครู่

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่มีชายคนหนุ่มคนหนึ่ง ตัดผมเกรียน พร้อมสะพายอาวุธปืน คล้ายกับปืนกล ยืนอยู่ข้างกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับซึ่งเป็นผู้ชาย โดยทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ชายคนที่สะพายปืนอ้างว่าเป็นตำรวจ ซึ่งหลังจากโต้เถียงกันสักครู่หนึ่ง ผู้ชายคนที่สะพายปืนได้เดินกลับไปขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ที่จอดอยู่ด้านหน้าแล้วขับออกไป

ในเวลาต่อมาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา ตำรวจในพื้นที่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวจนทราบและยืนยันตัวตนผู้ก่อเหตุว่าเปนตำรวจจริง คือ ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.สารภี เชียงใหม่  ซึ่งได้ถูกเรียมาให้การ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยด้วยในคืนที่ผ่านมา โดย ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์ ได้ให้การในเบื้องต้นว่าปืนดังกล่าว เป็นปืน บีบีกันของตนเอง ที่นำไปซ่อมและไปรับกลับมา แต่ขณะที่กำลังกลับบ้านก็เกิดปัญหาขับรถเบียนกันกับคู่กรณีก่อน จึงลงไปพูดคุยมีปากเสียงกัน แต่ที่ต้องเอาปืนลงไปเบื้องต้นด้วยเพราะว่า มีลูกและภรรยาอยู่ในรถจึงต้องสะพายปืนลงไปด้วยเกรงว่าลูกจะหยิบไปเล่นแล้วเกิดอันตราย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา(25เมษายน2563) พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ ได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาปรับความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางฝ่ายของสี่ล้อแดงคือคนขับรถมาพร้อมภรรยา และลูกน้อย ที่อยู่ในรถวันเกิดเหตุ เช่นเดียวกันกับทางฝ่ายของ ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์  ก็เดินทางมาพร้อมกับภรรยา และลูกน้อยเช่นกัน โดยทางผู้การเชียงใหม่ได้นำหลักฐานเป็น ปืนบีบีกัน ที่ ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์  สะพายในวันเกิดเหตุ มาตรวจสอบ และยืนยันให้กับคู่กรณีได้ดู พร้อมกันนี้ได้ให้คู่กรณีได้เจรจาปรับความเข้าในกันในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดจากการขับขี่รถที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนทำให้เกิดมีปากเสียงขึ้น ในส่วนของ ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์  ได้ยกมีไหว้ขอโทษคู่กรณี ส่วนความผิดทางวินัยทางตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตามทางด้านคนขับรถสี่ล้อแดง ได้เปิดเผยกับทางสื่อมวลชนว่า ในวันเกิดเหตุยืนยันว่าตนเอขับรถมาตามปกติ โดยมีรถของคู่กรณีที่เป็นตำรวจที่มาทางตรง แต่ตนเองพยายามจะขับออกจากทางรองเพื่อเข้าถนนหลัก ในช่วงนั้นมีรถติด แต่พอคู่กรณีมาตามทางหลักก็ได้เบรครถ และให้นำหน้าไปยืนยันว่าเว้นระยะห่างประมาณ2 ช่วงคันรถ ไม่ได้ขับจี้ท้าย แต่ในช่วงเกิดเหตุคู่กรณีที่ลงมาพร้อมกับอาวุธปืน อ้างตนว่าเป็นตำรวจกล่าวหาตนเองว่าขับรถตาม ซึ่งก็ได้บอกไปว่าขับมาตามทางจะไปบ้านทางนี้ ภรรยาก็เป็นคนห้ามตลอดไม่ให้ไปมีเรื่อง ตนเองก็พยายามไม่ไปมีเรื่องเนื่องจากมีทั้งลูกและเมียนั่งมาในรถ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคู่กรณีต้องอ้างว่าเป็นตำรวจ และนำมาวุธปืนลงมาเหมือนใช้ข่มขู่ด้วย จึงได้นำคลิปที่ภรรยาถ่ายไว้โพสต์ลงโลกออนไลน์ เพื่อที่ต้องการจะสืบทราบว่าคนในภาพเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และไม่อยากให้ไปทำกับใครเช่นนี้ โดยเฉพาะประชาชนคนทั่วไป