นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เข้าพูดคุยกับนายคาซูยะ นาชิดะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ทางการญี่ปุ่นรับซื้อผลไม้ของไทยรวมทั้งหมด 9 ชนิด ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้ผลไม้ไทยออกไปสู่ตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น
โดยทั้ง 9 ผลไม้ของไทยที่ต้องการส่งออกไปญี่ปุ่น ประกอบด้วย มะม่วง ทุเรียน สับปะรด มะพร้าวอ่อน มังคุด สละ มะขามหวาน ส้มโอ และกล้วยดิบ ซึ่งนายจุรินทร์ เห็นว่า ผลไม้เหล่านี้สามารถส่งออกไปญี่ปุ่นได้ และทางญี่ปุ่นเองจะช่วยส่งเสริมการตลาดโดยเฉพาะการขายตรงผ่านช่องทีวีของญี่ปุ่นเอง พร้อมกันนี้ ไทยยังขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนการขนส่งทางอากาศเพื่อขยายการส่งออกผลไม้ไทยไปญี่ปุ่น ในช่วงโควิด-19 ให้มากขึ้น
นายนาชิดะ กล่าวว่า พร้อมร่วมมือกับไทยสนับสนุนข้อตกลง RCEP เพื่อให้สามารถลงนามความตกลงได้ ภายในปี 2563 โดยหวังว่าจะมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้สมาชิกสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเต็มที่และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 รวมถึงยังเห็นพ้องที่จะผลักดันให้อินเดียกลับมาเข้าร่วมการเจรจาต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) ตั้งแต่ปี 2550 ส่งผลให้ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย โดยในปี 2562 การค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีมูลค่า 57,780 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยไทยส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 24,558 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสินค้า เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
ขณะเดียวกันไทยนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 33,222 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสินค้า เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
ในปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) การค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีมูลค่า 13,903 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 6,061 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 7,842 ล้านเหรียญสหรัฐ