"เดอะมันนี่" ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตกำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ กลายเป็นนักกีฬาที่ทำเงินได้มากที่สุดแห่งทศวรรษ 2010 (ในช่วงระหว่างปี 2010-2019) จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารทางการเงินชื่อดังของสหรัฐอเมริกา
อดีตนักชกวัย 42 ปี โกยรายได้มากถึง 915 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 27,500 ล้านบาท) ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ขึ้นสังเวียนชกแม้แต่ไฟต์เดียว โดยเป็นการรวมทั้งรายได้จากต้นสังกัด (Salary/Winnings) และรายได้นอกสนามอื่นๆ เช่น พรีเซ็นเตอร์สินค้า (Endorsements) ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่อันดับที่ 2 เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าดาวยิงของ ยูเวนตุส ที่ทำเงินไปได้มากถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 24,100 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 3 ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะของ บาร์เซโลน่า ทำไปได้ 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 22,600 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาหนึ่งเดียวจากเอเชียที่ติดโผเข้ามานั่นก็คือ แมนนี่ ปาเกียว ยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์ ที่ทำเงินไปได้มากถึง 435 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 13,106 ล้านบาท) ติดอันดับที่ 8 ในการจัดอันดับครั้งนี้
พร้อมกันนี้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคนที่มีรายชื่อจากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ "ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคนในการจัดอันดับครั้งนี้"
ทำเนียบนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดแห่งทศวรรษ จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส
1.ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (มวย) 915 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 27,500 ล้านบาท)
2.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ฟุตบอล) 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 24,100 ล้านบาท)
3.ลีโอเนล เมสซี่ (ฟุตบอล) 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 22,600 ล้านบาท)
4.เลบรอน เจมส์ (บาสเกตบอล) 680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 20,488 ล้านบาท)
5.โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (เทนนิส) 640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 19,283 ล้านบาท)
6.ไทเกอร์ วู้ดส์ (กอล์ฟ) 615 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 18,529 ล้านบาท)
7.ฟิล มิคเคลสัน (กอล์ฟ) 480 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 14,462 ล้านบาท)
8.แมนนี่ ปาเกียว (มวย) 435 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 13,106 ล้านบาท)
9.เควิน ดูแรนท์ (บาสเกตบอล) 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12,805 ล้านบาท)
10.ลูอิส แฮมิลตัน (นักขับ F-1) 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12,052 ล้านบาท)