หลังจากตั้งแต่ช่วงปีใหม่เป็นต้นมาประเทศไทยเกิดเรื่องน่ากลัวและสะเทือนขวัญหลายเหตุการณ์ตลอดช่วงที่ผ่านมา ถึงขอเปลี่ยนอารมห์และพักสมองด้วยการนำสีสันวงการกีฬามาให้ผู้อ่านได้รับชมเผื่อจะช่วยจันโลมใจได้บ้าง โดยขอเปิด 6 กำปั้นที่ดันไปหน้าละม้ายคล้ายนักบอลไปดูกันว่าจะเหมือนกันแค่ไหน

 1. ซาอูล กาเนโล่ อัลวาเรซ - อัลเบร์โต้ โมเรโน่

    ซ้าย : กาเนโล่ แชมป์โลก รุ่น มิดเดิ้ลเวท ของ สมาคมมวยโลก (WBA) ชาวเม็กซิกัน ผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของกำปั้นในยุคนี้ โดยถูกจัดอันดับให้เป็นนักชกที่ดีที่สุดหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์จากหลายสำนัก แถมยังเพิ่งจะสร้างเสียงฮือฮาด้วยการไปคว้าแชมป์โลก ไลท์ เฮฟวี่เวท ซึ่งเขาต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 2 รุ่นในการชกไฟต์นี้

    กำปั้นชาวเม็กซิกันรายนี้เคยขึ้นสังเวียนฟาดปากกับอดีตนักชกเบอร์ 1 โลกมาแล้วถึง 2 คน คือ "เดอะมันนี่" ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ และ "ทริปเปิลจี" เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น โดยตลอดอาชีพการค้ากำปั้นทั้ง 56 ไฟต์ของเขา ต้องพบกับความปราชัยแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นการพ่ายให้กับ ฟลอยด์

    ปัจจุบันนักชกวัย 29 ปี เป็นนักมวยที่มารายได้มากที่สุดในโลก หลังจากที่เขาได้เซ็นสัญญา 5 ปี 11 ไฟต์ กับทาง ดาโซน บริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิ่งสัญชาติอังกฤษ ในปี 2018 ซึ่งยอดมวยชาวจังโก้ รับทรัพย์จากดีลนี้สูงถึง 365 ล้านเหรียญสหรัฐ แถมยังเป็นอันดับที่ 4 นักกีฬาที่ทำเงินมากสุดในปี 2019 จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินชื่อดัง

    ขวา : โมเรโน่ อดีตแข้งเก่าของ ลิเวอร์พูล โดยดาวเตะชาวสเปน อยู่กับ "หงส์แดง" นานถึง 5 ซีซั่นเลยทีเดียว ก่อนจะย้ายกลับค้าแข้งในลีกบ้านเกิดด้วยการไปซบอก บียาร์เรอัล ทีมชั้นนำของ ลาลีกา สเปน แบบไร้ค่าตัว เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

    แข้งวัย 27 ปี ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับ เซบีย่า ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ในปี 2014 ซึ่งเป็นยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยตอนนั้นเขาย้ายมาด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ซึ่ง 2 ซีซั่นแรกของเขากับทาง "หงส์แดง" แนวรับชาวสเปนสามารถยึดตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย 

    ก่อนจะเริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง แถมยังมีปัญญาเรื่องการเล่นเกมรับทำให้สุดท้ายแล้ว แบ็กซ้ายวัย 27 ปี แทบจะไม่ได้รับโอกาสเลย หลังจากที่ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ไปเพียงแค่ 5 เกม เท่านั้นรวมทุกรายการ ในฤดูกาล 2018–19 

    2. อำนาจ รื่นเริง - มาร์ติน เบรธเวท 

    ซ้าย : อำนาจ รื่นเริง หรือ เพชร ป.บูรพา อดีตแชมป์มวยไทยเข็มขัดหลายเส้น และแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท ของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) โดยกำปั้นวัย 40 ปี ผ่านการชกบนสังเวียนมาอย่างมากมายไล่ไปตั้งแต่มวยไทย, มวยสากลสมัครเล่นหรือแม้แต่ มวยสากลอาชีพ ซึ่งล้วนแต่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั้งนั้น

    สมัยที่ อำนาจ เป็นขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทยเขากวาดเหรียญรางวัลมาแล้วไม่น้อย แต่ที่เด่นๆคงเป็นการคว้าเหรียญทองแดงมวยสากลมัครเล่นชิงแชมป์โลก ปี 2007 ที่ สหรัฐฯ  และ เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ปี 2010 ที่จีน ส่วน ในกีฬาโอลิมปิกส์ กำปั้นวัย 40 ปี ทำได้ดีที่สุดแค่ก่อนรอบรองชนะเลิสเท่านั้น 

    จากนั้น อำนาจ ก็ได้เทิร์นโปรมาชกมวยอาชีพในปี 2012 และให้เวลาไต่เต่าแค่เพียงปีเศษเขาก็สามารถคว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท (IBF) มาครองได้ ซึ่ง เจ้าเพชร สามารถป้องกันตำแหน่งได้ 5 ครั้ง ก่อนจะมาเสียแชมป์ให้ จอห์น คาซิเมโร่ ในศึกรีแมตช์เมื่อปี 2016 

    ขวา : เบรธเวท หัวหอกตัวใหม่ถอดด้ามของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทัพ "อาซูลกราน่า" ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร (ประมาณ 612 ล้านบาท) จาก เลกาเนส สโมสรเพื่อนร่วมศึก ลาลีกา สเปน โดยก่อนหน้านี้ทาง กองหน้าวัย 28 ปี เคยผ่านการค้าแข้งกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ และ ตูลูส มาแล้ว 

    ฤดูกาลนี้ ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก ยิงให้กับเลกาเนสไป 6 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 24 เกม โดย "อาซูลกราน่า" จำเป็นต้องคว้าตัวแข้งวัย 28 ปี เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในแดนหน้าของ ลิโอเนล เมสซี่ หลังจากที่ 2 แนวรุกตัวเก่งอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ อุสมาน เดมเบเล่ มีอาการบาดเจ็บจนต้องปิดเทมอยาวและอาจจะพลาดลงสนามช่วยต้นสังกัดตลอดช่วงที่เหลือในซีซั่นนี้    

    3. แอนโทนี่ โจชัว - เยโรม บัวเต็ง

    ซ้าย : โจชัว แชมป์โลกชาวผู้ดีเจ้าของเข็มขัด 4 สถาบัน (WBA,WBO,IBFและIBO) ถูกยกให้เป็นเบอร์ 1 ของ รุ่น เฮฟวี่เวท โดยประสบการณ์บนสังเวียนของเขาถือโชกโชนมาก ในอดีตกำปั้นรายนี้เคยผ่านเวทีของมวยสากลสมัครเล่นมาก่อนพร้อมกับกวาดเหรียญรางวัลมาแล้วมากมายทั้ง เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ที่ลอนดอน หรือ เหรียญเงินมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ก็ล้วนแต่ผ่านมือเขามาแล้วทั้งนั้น

    เหมือนว่าชีวิตบนสังเวียนของเขาจะสมบูรณ์แบบไปเสียหมด ทั้งสถิติการชกอันยอดเยี่ยม แถมชนะคู่ต่อสู้แบบไม่ครบยกแทบทุกไฟต์ ทว่าในที่สุดกำปั้นวัย 30 ปี ก็ต้องสะดุดหลังจากพ่ายน็อกให้กับนักมวยโนเนมอย่าง แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ ยังดีที่ต่อมาเขาสามารถคว้าชัยได้ในศึกรีแมตช์พร้อมกับกระชากเข็มขัดทั้ง 4 เส้นคืนมาได้สำเร็จ

    ขวา : บัวเต็ง ปราการหลังประสบการณ์สูง ชาวเยอรมัน ปัจจุบันเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค โดยอยู่กับ "เสือใต้" มาแล้วถึง 9 ซีซั่น ทว่าก่อนหน้านั้นดาวเตะวัย 31 ปี เคยผ่านการค้าแข้งให้กับหลายทีมไม่ว่าจะเป็น เทนนิส โบรุสเซีย เบอร์ลิน, แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, ฮัมบูร์ก หรือแม้แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

    ซึ่งกองหลังรายนี้ คว้าแชมป์มาแล้วมากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยไล่ไปตั้งแต่ แชมป์โลก 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, บุนเดสลีกา เยอรมัน 7 สมัย และ เอฟเอคัพ 1 สมัย แม้ว่าปีนี้ บัวเต็ง จะอายุปาไป 31 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นกำลังหลักให้ของ "เสือใต้" ในการไล่ล่าต่างๆให้กับสโมสรในฤดูกาลนี้

    4. ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ - โรเมลู ลูกากู

    ซ้าย : ไวล์เดอร์ ยอดมวยไร้พ่ายชาวอเมริกัน ที่ปัจจุบันครองเข็มขัดแชมป์โลก รุ่น เฮฟวี่เวท ของ สภามวยโลก (WBC) ซึ่งกำปั้นรายนี้มีประสบการณ์บนสังเวียนอาชีพอย่างโชกโชน โดยขึ้นชกมาแล้วมากถึง 43 ครั้ง และมีเพียงแค่ไฟต์ที่เสมอกับไทสัน ฟิวรี่ ที่เขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ 

    ก่อนที่ ไวล์เดอร์  ไวล์เดอร์ เทิร์นโปรมาเป็นนักมวยอาชีพเขาก็เป็นอีกคนที่เคยผ่านการชกมวยสมัครเล่นมาก่อน ทว่ากำปั้นวัย 34 ปี ทำได้ดีที่สุดแค่เพียงคว้าเหรียญทองแดงในโอลิมปิกเกมส์ที่ปักกิ่งเท่านั้น 

    อย่างไรก็ตาม ไวล์เดอร์ เตรียมทำศึกรีแมตช์กับ ฟิวรี่ เช้าวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ (ตามเวลาไทย) ที่เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทั้งคู่เสมอกันมาเมื่อช่วงปลายปี 2018 

    ขวา : ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ชาวเบลเยี่ยม ถือว่าเป็นสไตรเกอร์ที่ทำสกอร์ให้กับต้นสังกัดได้อย่างมากมาย หลังจากที่เขายิงในระดับสโมสรและทีมชาติทะลุ 250 ประตูไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เขาได้ค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ทีมดังแดนมักกะโรนี และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจมาก หลังจากยิงไปแล้ว 21 ประตู จากการลงสนามทั้งหมด 32 เกม รวมทุกรายการ

    แม้ดาวยิงวัย 26 ปี จะมีค่าเฉลี่ยทำประตูให้กับสโมสรอยู่ที่ 16 ลูกต่อฤดูกาล ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย ทว่ากองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยมกลับไม่ประสบความสำเร็จกับ 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี จนสุดท้ายต้องตัดสินใจอำลาทีมและออกเดินทางไปหาความท้าทายใหม่ๆที่ อิตาลี
 

    5.แกรี่ รัสเซลล์ จูเนียร์ - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ 

    ซ้าย : รัสเซลล์ แชมป์โลก รุ่น เฟเธอร์เวท ของ สภามวยโลก (WBC) ชาวอเมริกัน เข้าสู่วงการมวยตั้งแต่ยังเด็ก โดยในปี 2004 เขาได้เข้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจูเนียร์ และเป็นผู้ชนะในรายการนี้ จากนั้นปี 2005 รัสเซลล์ ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังคว้าเหรียญทองแดง ในศึกมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก พร้อมกับส่งให้เขาคว้ารางวัล ยูเอส เนชั่นเนล โกลเด้น โกลฟส์ มาครอง และสร้างประวัติศาสเป็น 1 ใน 2 นักมวยที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ได้รางวัลนี้

    จากนั้นปี 2008 รัสเซลล์ ก็ได้คว้าตั๋วไป โอลิมปิกเกมส์ที่ ปักกิ่ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่ปี 2009 เขาจะผันตัวมาชกมวยอาชีพ และมีผลงานอันยอดเยี่ยมหลังจากชนะมา 24 ไฟต์รวด ก่อนจะมาสะสุดด้วยการแพ้ให้กับ วาซิล โลมาเชนโก้ในการชิงตำแหน่งแชมป์โลก รุ่น รุ่น เฟเธอร์เวท ของ สภามวยโลก (WBC) ที่ว่างอยู่ ก่อนที่กำปั้นวัย 31 ปี จะสามารถคว้าแชมป์เส้นนี้ได้ใน 2 ไฟต์ถัดจากนั้น 

    ขวา : ลากาแซตต์ กองหน้าเลือดน้ำหอม ของ อาร์เซน่อล ซึ่งย้ายจาก ลียง มาด้วยค่าตัวสถิติสโมสรที่ 46.5 ล้านปอนด์ ก่อนจะมาโดน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ ทำลายสถิติไปในตลาดเดือนมกราคมในฤดูกาลเดียวกัน 

    ก่อนที่ดาวเตะวัย 28 ปี จะย้ายอยู่ภายใต้สีเสื้อของ "เดอะกันเนอร์" เขาสามารถยิงให้ ลียง ทะลุ 20 ประตูได้ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน จนคว้ารางวัลดาวซัลโวของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2014-15 แถมยังคว้าแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนของ ลีก เอิงถึง 3 ครั้ง และติดโผแข้งยอดเยี่ยมของ ยูโรปา ลีก ปี 2016-17 อีกด้วย

    หลังจากที่กองหน้ชาวฝรั่งเศสย้ายมาอยูกับ อาร์เซน่อล เขาก็ทำผลงานได้ดีพอสมควรจนคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ "เดอะกันเนอร์" ฤดูกาล 2018-19 จากผลงาน 19 ประตู จาก 49 นัดรวมทุกรายการ 

    6. ไมกี้ การ์เซีย - เอ็มเร่ ชาน

    ซ้าย : การ์เซีย อดีตแชมป์โลก 4 รุ่น ชาวอเมริกัน ซึ่งเขาคือยอดมวยคนนึงในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ทว่าน่าเสียดายที่ไฟต์ล่าสุดของกำปั้นวัย 32 ปี ต้องสะดุด หลังจากโดน เออร์โรล สเปนซ์ จูเนียร์ แชมป์โลกเพื่อนร่วมชาติ ยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกในชีวิตบนสังเวียนของเขา โดยแมตช์นั้น การ์เซีย ได้ขยับพิกัดเพิ่มน้ำหนักขึ้นไป 2 รุ่น จาก 135 ปอนด์ เป็น 147 ปอนด์ 

    นักมวยชาวอเมริกันรายนี้ เคยถูกจัดให้ติด 10 อันดับแรกให้เป็นนักชกที่ดีที่สุดหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ก่อนจะมาหลุดจากแรงค์กิ่งไปในช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากที่เขาเรื้อสังเวียนไปเกือบ 1 ปีเต็ม โดย การ์เซีย มีคิวที่จะขึ้นชิงแชมป์ WBCไดม่อนด์ (แชมป์เงา) รุ่น เวลเตอร์เวท ที่ว่างอยู่กับ เจสซี่ วาร์กัส นักชกเพื่อนร่วมทชาติ ในช่วงบปลายเดือนนี้ 

    ซึ่งไฟต์นี้ทำให้บรรดาแฟนมวยจำนวนไม่น้อยต้องอกหักเพราะหลายๆคนอยากจะเห็น การ์เซีย กลับมาชกในพิกัด 135 ปอนด์ อีกครั้งกับ ยอดกำปั้นอย่าง วาซิล โลมาเชนโก้   

    ขวา : ชาน กองลางชาวเยอรมัน โดยปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยสัญญายืมตัว มิดฟิลด์วัย 26 ปี ถือว่าเป็นแข้งจอมพเนจรคนนึงเลยก็ว่าได้ โดยเขาเริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลด้วยการเป็นเด็กในอะคาเดมี่ของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 

    ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค และเล่นให้กับ "เสือใต้" มาไล่ไปตั้งแต่ ยู-17, ยู-19, ชุดสำรอง และ ชุดใหญ่ ทว่าไม่สามารถแจ้งเกิดได้ทำให้เขาต้องออกเดินทางอีกครั้ง ด้วยการโยกไปซบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งหนนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมกับพาทีมจบที่ 4 ในลีก 

    ซึ่งผลงานของเขากับ "ห้างขายยา" แจ่มจนทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องคว้าตัวดาวเตะเลือดเบียร์มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 9.7 ล้านปอนด์ และเป็นขุมกำลังหลักที่พา "หงส์แดง" เข้าชิงถ้วย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทว่าน่าเสียดายที่พลาดท่าพ่าย เรอัล มาริด ไปหลังสิ้นสุดฤดูกาล ชาน ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล และย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว 

    โดยมิดฟิลด์ชาวเยอรมัน เปิดตัวกับ "ม้าลาย" ได้อย่างน่าประทับใจในซีซั่นแรก ทว่าฤดูกาลถัดมา ยูเว่ ก็ได้แยกทางกับ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี พร้อมกับดึง เมาริซิโอ ซาร์รี่ เข้ามากุมบังเหียนแทน ซึ่งกุนซือคนใหม่เลือกที่จะไม่ใช่งานเขาทำให้สุดท้ายกองกลางวัย 26 ปี ก็หมดอนาคตในถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ในที่สุดจนต้องเก็บเสื้อผ้าย้ายไปอยู่กับ "เสือเหลือง"