ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับ น.ส.จินดารัตน์ จินดา หรือ แกรนด์ อายุ 36 ปี ที่บ้านพักใน ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไปของการตัดสินใจทุ่มเงิน 1.5 ล้านบาท ในการทำศัลยกรรม
น.ส.จินดารัตน์ เล่าให้ฟังว่า แต่เดิมเคยทำงานเป็นพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ ต่อมาปี 2552 แต่งงานกับสามี อยู่กินกันมาจนมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นลูกฝาแฝด ก่อนที่ตนจะตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อมาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว เปิดเป็นร้านขายดอกไม้ในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งช่วงหลังจากการมีลูกและเริ่มลุยทำงาน ทำให้ไม่ค่อยได้ดูแลร่างกาย กลายเป็นคนอ้วน หน้าตาไม่ดี จนสามีเริ่มตีตัวออกห่าง และมีปัญหาในชีวิตคู่ต้องแยกกันอยู่ ตนจึงปรึกษากับเพื่อนๆ เรื่องจะทำศัลยกรรม แต่ก็ถูกเพื่อนหลายคนดูถูกว่าหน้าตาอย่างตน ต้องไปตายแล้วเกิดใหม่เท่านั้น ทำให้เป็นแรงผลักดันให้ตนยิ่งอยากทำศัลยกรรม เพื่อลบคำสบประมาท
น.ส.จินดารัตน์ เล่าต่อว่า ก่อนนี้พยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งในไทยและที่ประเทศเกาหลี ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการทำศัลยกรรม แต่เมื่อไปดูสถานที่แล้วก็ทำให้กลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะหลายแห่งจะไม่รับผิดชอบหากเกิดปัญหาตามมาทีหลัง กระทั่งมารู้จักกับอาจารย์หมอท่านหนึ่งในเมืองไทย ท่านก็รับทำให้ โดยจัดทีมแพทย์ดูแลให้อย่างดี เนื่องจากตนเองมีโรคประจำตัวเป็นโรคตับอักเสบบีและภูมิแพ้ แต่ก็ตัดสินใจที่จะทำ โดยเริ่มทำครั้งแรกตั้งแต่เดือน ต.ค.61 ใช้เงินในการทำศัลยกรรมไปทั้งสิ้นกว่า 1.5 ล้านบาท โดยทำทั้งหน้าตา หน้าอก รวมถึงลดน้ำหนักจากที่เคยหนักเกือบ 70 ก.ก. ปัจจุบันเหลือเพียง 49 ก.ก. จนปัจจุบันหน้าตาออกมาเป็นที่น่าพอใจ
น.ส.จินดารัตน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ก็อาจจะมีทำศัลยกรรมเพิ่มอีกนิดหน่อยก็จะหยุดทำต่อ เพราะไม่ได้เป็นคนเสพติดการศัลยกรรม อยากทำครั้งเดียวให้จบเลย หลังจากนี้ก็จะดูแลร่างกายให้ดี
อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะสนับสนุนให้ทุกคนไปทำศัลยกรรม เพราะทุกวันนี้มีคลินิกหลายแห่งเปิดรับทำ แต่ความรับผิดชอบอาจจะไม่มี และผลที่ออกมาอาจจะไม่ได้ตามที่เราคิดทุกคน หากใครคิดจะไปทำศัลยกรรม ก็อาจจะให้พิจารณาสถานที่ที่จะไปทำให้ดี หาข้อมูลให้รอบด้านก่อนจะตัดสินใจทำ